xs
xsm
sm
md
lg

โวยลั่น! โรงสี-ร้านของเก่านักการเมืองอุตรดิตถ์ส่งกลิ่น-ฝุ่นคลุ้ง แห่ร้องนับไม่ถ้วนแต่เรื่องเงียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อุตรดิตถ์ - ชาวคลองห้วยไผ่โวยโรงสี-โรงรับซื้อของเก่าของนักการเมืองใหญ่อุตรดิตถ์ทำเดือดร้อนกันถ้วนหน้ามานานกว่า 1 ปี ทั้งทิ้งแกลบทำฝุ่นกระจาย-ของเก่าตกเรี่ยราดส่งกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้ง เผยเคยร้องเรียนถึงจังหวัดฯ มานับครั้งไม่ถ้วนแต่เรื่องเงียบ

นายประเสริฐ มั่นสุข อายุ 43 ปี ราษฎรบ้านคลองห้วยไผ่ หมู่ 1 ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า กว่า 1 ปีแล้วที่ชาวบ้านคลองห้วยไผ่ได้รับความเดือดร้อนจากการนำแกลบที่เหลือจากการสีข้าวเปลือกของโรงสีข้าวแห่งหนึ่งที่เป็นของนักการเมืองระดับจังหวัด ซึ่งทุกวันจะนำแกลบใส่รถบรรทุกสิบล้อมาทิ้งบริเวณพื้นที่ว่างเปล่าราว 16 ไร่ของนักธุรกิจคนหนึ่ง ทำให้ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายใส่บ้านเรือนของประชาชน ซึ่งมีทั้งบ้านแพทย์พยาบาล และข้าราชการหลายสังกัดที่อยู่บริเวณโดยรอบ จนต้องปิดประตูหน้าต่างบ้านไว้ตลอดเวลา

“ช่วงฝนตกหนักน้ำฝนจะทำให้แกลบไหลมาตามร่องน้ำส่งกลิ่นเหม็นมาก เวลามีลมพัดแรงๆ ทั้งแกลบและฝุ่นละอองก็ฟุ้งกระจายมาใส่บ้านเรือนของประชาชน เสื้อผ้าที่ซักและตากไว้เปื้อนหมด เวลานำมาสวมใส่ก็เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ชาวบ้านหลายคนกำลังจะป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเพราะสูดดมคายข้าวเปลือกและกลิ่นเหม็นจากแกลบที่แช่น้ำจนเน่าเสีย” นายประเสริฐกล่าว

ด้านนางยุพิน ต่ายอ้น อายุ 64 ปี ราษฎรบ้านคลองห้วยไผ่ กล่าวว่า บ้านอยู่ติดกับจุดที่โรงสีนำแกลบมาทิ้ง และกำลังตัดสินใจจะเลิกอาชีพรับจ้างซักผ้าเพราะทนกับฝุ่นละออง-กลิ่นเหม็นจากแกลบข้าวเปลือกมานานกว่า 1 ปีแล้วไม่ไหว ชาวบ้านเคยเดินขบวนไปร้องเรียนผู้ใหญ่บ้าน นายกเทศมนตรีตำบลท่าเสา นายอำเภอ และศูนย์ดำรงธรรม นับครั้งไม่ถ้วน เพื่อขอให้โรงสีย้ายจุดทิ้งแกลบไปที่อื่น แต่ก็ไม่เคยมีหน่วยงานลงมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน และไม่รู้ว่าจะต้องทนไปอีกนานแค่ไหน

“เราไม่เพียงเดือดร้อนจากแกลบของโรงสีข้าวเท่านั้น แต่ยังเดือดร้อนจากโรงรับซื้อของเก่าของนายกเทศมนตรีตำบลแห่งหนึ่งใน อ.ลับแล ที่อยู่ปากทางเข้าซอยแว่นจันทร์ บ้านคลองห้วยไผ่ หมู่ 1 เศษของเก่ามักส่งกลิ่นเหม็นตลอดเวลา และขยะมูลฝอยตกเรี่ยราดใส่ที่ดินของชาวบ้าน ยิ่งช่วงขนย้ายของเก่าจะเดือดร้อนมากเพราะร้านจะนำรถบรรทุกสิบล้อมาปิดซอย มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะรถบรรทุกสิบล้อบังสายตาผู้ขับขี่ที่จะออกจากซอย เคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงานเช่นกัน แต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนที่จะเข้ามาดูแลเลย” นางยุพินกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น