นครพนม - ตามคาด แม่น้ำโขงแห้งเร็วจนเห็นหาดทรายโผล่แล้ว เริ่มส่งผลกระทบต่อการเดินเรือขนส่งสินค้าจุดผ่อนปรนไทย-ลาวอำเภอท่าอุเทน ต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้นเพราะต้องแล่นเรืออ้อมสันดอนทรายทำให้ระยะทางขนส่งใช้เชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ม.ค.) ที่จุดผ่อนปรนไทย-ลาว อำเภอท่าอุเทน หลังจากระดับน้ำโขงลดลงเร็วขึ้นในปีนี้ ล่าสุดปริมาณน้ำอยู่ที่ระดับประมาณ 3 เมตร ได้เกิดสันดอนทรายโผล่บริเวณกลางแม่น้ำโขงเป็นพื้นที่กว้างหลายจุด เริ่มเป็นอุปสรรคในการเดินเรือสัญจรขนส่งสินค้าไปมาระหว่างไทย-ลาว ของอำเภอท่าอุเทน และเมืองหินบูน แขวงคำม่วน สปป.ลาว
ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการทำธุรกิจค้าขายระหว่างชายแดนไทย-ลาว ที่มีประชาชนชาวลาวนำสินค้ามาวางขาย และซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคกลับไปขาย ทำให้ทุกสัปดาห์มีตัวเลขเศรษฐกิจหมุนเวียนวันละไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านบาท
นายสมาน สาหัส อายุ 50 ปี ชาวบ้านที่ดูแลการเดินเรือข้ามฟาก กล่าวว่า ในช่วงนี้บริเวณตลาดจุดผ่อนปรนกำลังเริ่มประสบปัญหาจากแม่น้ำโขงแห้งทำให้เกิดสันดอนทรายเป็นพื้นที่กว้างกลางแม่น้ำโขง สร้างอุปสรรคในการเดินเรือสัญจรไปมาระหว่างไทย-ลาว ต้องอ้อมสันดอนทรายที่ขวางทางเดินเรือ ส่งผลให้เพิ่มระยะเวลาการเดินทาง ค่าใช้จ่ายมากขึ้นเท่าตัว
โดยในปีนี้เพิ่งเข้าสู่เดือนมกราคมแต่น้ำโขงกลับแห้งแล้ว ยิ่งถึงเดือนมีนาคม-เมษายนยิ่งจะกระทบหนัก คือชาวเรือต้องใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเพราะระยะทางเดินเรือไกลขึ้นคือต้องขับเรืออ้อมสันดอนทราย ขณะที่การบรรทุกสินค้าได้น้อยลงลดปัญหาเรือหนักกินน้ำลึกอาจทำให้เรือติดทรายใต้น้ำ
อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไม่สามารถย้ายได้ เพราะต้องมีการขออนุญาตระดับกระทรวงมหาดไทยจึงเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น ผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนที่เดินทางผ่านไปมาต้องยอมแบกภาระค่าใช้จ่าย เพราะความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติไม่สามารถป้องกันได้ ยิ่งบางปีน้ำโขงแห้งหนักอาจต้องหยุดการเดินเรือชั่วคราว
แต่หากไปใช้การขนส่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโขง จะต้องมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายการขนส่ง และขั้นตอนการผ่านแดนที่ยุ่งยาก