พระนครศรีอยุธยา - ประชาชนทั้งในพระนครศรีอยุธยา และต่างจังหวัดนับหมื่นคนแน่น “วัดสะแก” ต่อแถวยาวรับ “แหวนหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ” พระนักปฏิบัติชื่อดังเมืองกรุงเก่า จนบางคนถึงกับเป็นลม ในงานทำบุญครบ 109 ปีหลวงปู่ดู่
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (17 ม.ค.) ที่วัดสะแก ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตรงกับวันมรณภาพหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ อดีตพระนักปฎิบัติและเกจิชื่อดังวัดสะแก ได้มีพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลเป็นปีที่มีอายุครบ 109 ปี โดยภายในงานหลังจากมีพิธีทำบุญเลี้ยงพระ จำนวน 500 รูปในช่วงเช้าแล้ว
ต่อมา ในช่วงบ่ายทางคณะกรรมการวัดซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ ได้นำแหวนเนื้อทองแดงที่ได้ร่วมกันสร้างมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มาร่วมทำบุญ โดยพบว่า มีประชาชนนับหมื่นคนเข้าคิวรอรับแหวนหลวงปู่ดู่ ตั้งแต่หน้าประตูวัดไปจนถึงโบสถ์ยาวกว่า 500 เมตร ซึ่งประชาชนที่มามีทั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดต่างๆ จากทั่วประเทศ
บางรายมาล่วงหน้า 1 วัน ค้างคืนที่วัด ทางวัดต้องจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อปพร. แพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลอุทัย มาอำนวยความสะดวก เนื่องจากพบว่ามีบางรายมารอนานเพื่อรับแหวนจนถึงกับเป็นลม เนื่องจากมีประชาชนเป็นจำนวนมาก และพบว่า หลังจากที่มีการรับแหวนแล้วปรากฏว่า ได้มีบรรดาเซียนพระต่างตั้งโต๊ะรับซื้อแหวนกันในราคาสูงถึงวงละ 400-600 บาท
นายวิรัช รีกิตติศิริกุล คณะกรรมการจัดสร้างแหวน เปิดเผยว่า พวกตนพร้อมกับเพื่อน และลูกศิษย์ได้ร่วมกันสร้างแหวนหลวงปู่ดู่ คล้ายกับแหวนที่หลวงปู่สร้างเมื่อสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เพื่อนำแหวนแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มีจิตศรัทธาเดินทางมาร่วมทำบุญ ซึ่งปีนี้ดูแล้วมีคนมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา เคยทำแหวนแจกจ่ายติดต่อกันมาแล้ว 5 ปี โดย ปีนี้ทำแหวนมา 1 หมื่นกว่าวง หากแจกจ่ายแล้วเหลือจะนำแหวนมอบให้แก่ทางวัด
“การทำแหวนเป็นการทำส่วนตัวไม่เกี่ยวกับทางวัด ซึ่งหลวงปู่ดู่ เป็นพระที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ มีประชาชนเลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่ดู่มาก ซึ่งท่านได้มรณภาพเมื่อปี 2533 อายุ 86 ปี มาจนถึงปีนี้เป็นปีที่ 109 ปี”
ประวัติหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ มีชาติกำเนิดในสกุล “หนูศรี” เดิมชื่อ ดู่ เกิดเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะโรง ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา ณ บ้านข้าวเม่า ตำบลข้าวเม่า อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ พุด โยมมารดาชื่อ พุ่ม ท่านมีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 3 คน ท่านเป็นบุตรคนสุดท้าย มีโยมพี่สาว 2 คน มีชื่อตามลำดับดังนี้
1.พี่สาวชื่อ ทองคำ สุนิมิตร
2.พี่สาวชื่อ สุ่ม พึ่งกุศล
3.ตัวท่าน
ชีวิตในวัยเด็กของท่านดูจะขาดความอบอุ่นอยู่มาก ด้วยกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่เยาว์วัย นายยวง พึ่งกุศล ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของท่าน ได้เล่าให้ฟังว่า บิดามารดาของท่านมีอาชีพทำนา โดยนอกฤดูทำนาจะมีอาชีพทำขนมไข่มงคลขาย เมื่อตอนที่ท่านยังเป็นเด็กทารก มีเหตุการณ์สำคัญที่ควรบันทึกไว้ คือ ในคืนวันหนึ่งซึ่งเป็นหน้าน้ำ ขณะที่บิดามารดาของท่านกำลังทอด “ขนมมงคล” อยู่นั้น ท่านซึ่งถูกวางอยู่บนเบาะนอกชานคนเดียว ไม่ทราบด้วยเหตุใดตัวท่านได้กลิ้งตกลงไปในน้ำ ทั้งคนทั้งเบาะ แต่เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งที่ตัวท่านไม่จมน้ำ กลับลอยน้ำจนไปติดอยู่ข้างรั้วกระทั่งสุนัขเลี้ยงที่บ้านท่านมาเห็นเข้าจึงได้เห่าพร้อมกับวิ่งกลับไปกลับมาระหว่างตัวท่านกับมารดาท่าน เมื่อมารดาท่านเดินตามสุนัขเลี้ยงออกมา จึงได้พบท่านลอยน้ำติดอยู่ที่ข้างรั้ว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มารดาท่านเชื่อมั่นว่า ท่านจะต้องเป็นผู้มีบุญวาสนามากมาเกิด
มารดาของท่านได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่ท่านยังเป็นทารกอยู่ ต่อมา บิดาของท่านก็จากไปอีกขณะท่านมีอายุได้เพียง 4 ขวบเท่านั้น ท่านจึงต้องกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กจำความไม่ได้ ท่านได้อาศัยอยู่กับยาย โดยมีโยมพี่สาวที่ชื่อ สุ่ม เป็นผู้ดูแลเอาใจใส่ และท่านก็ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนที่วัดกลางคลองสระบัว วัดประดู่ทรงธรรม และวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ
เมื่อท่านอายุได้ 21 ปี ก็ได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2468 ตรงกับวันอาทิตย์แรม 4 ค่ำ เดือน 6 ณ วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีหลวงพ่อ ลั่น เจ้าอาวาสวัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ มีหลวงพ่อแด่ เจ้าอาวาสวัดสะแก ขณะนั้นเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และมีหลวงพ่อฉาย วัดกลางคลองสระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า “พรหมปัญโญ”