xs
xsm
sm
md
lg

ศิษยานุศิษย์ร่วมพิธีบรรจุอัฐิธาตุ “เจ้าคุณปู่สุข” เกจิดังเมืองน้ำดำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กาฬสินธุ์ - ศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและบรรจุอัฐิธาตุ พระธรรมวงศาจารย์ หรือเจ้าคุณปู่สุข เกจิชื่อดังแห่งเมืองน้ำดำ

ที่วัดกลาง พระอารามหลวง พระเทพวงศาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 ได้นำศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนชาว จ.กาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียงร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและบรรจุอัฐิธาตุของพระธรรมวงศาจารย์ (สุข สุขณมหาเถร) หรือเจ้าคุณปู่สุขที่พระวิหารนิรโรคันตราย (หลวงพ่อองค์ดำ) พระคู่บ้านคู่เมืองของ จ.กาฬสินธุ์ ทั้งยังมีรูปเหมือนขนาดเท่าตัวจริงของพระธรรมวงศาจารย์อยู่ด้วย

โดยพระธรรมวงศาจารย์ หรือเจ้าคุณหลวงปู่สุข เป็นพระผู้ใหญ่ที่ชาวเมืองกาฬสินธุ์ให้ความเคารพบูชาอย่างสูง ทั้งยังเป็นพระราชาคณะที่มีชั้นยศสูงสุดของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีนายบุญธรรม วิเศษลา ผู้พิพากษาศาล จ.ขอนแก่น ในฐานะเป็นตัวแทนของศิษยานุศิษย์ประธานฝ่ายฆราวาส และนายสำนัก กายาผาด เป็นตัวแทนของคณะญาติร่วมพิธี โดยมีพระภิกษุสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป สวดมาติกา-บังสุกุล จากนั้นได้อัญเชิญอัฐิธาตุขึ้นไปบรรจุบนพระวิหารนิรโรคันตราย (หลวงพ่อองค์ดำ) วัดกลางพระอารามหลวง

นายสำนัก กายาผาด ในฐานะตัวแทนของคณะญาติลูกหลานพระธรรมวงศาจารย์ หรือเจ้าคุณหลวงปู่สุข กล่าวว่า ในพิธีการบรรจุอัฐิธาตุของพระธรรมวงศาจารย์ ทางคณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และคณะญาติลูกหลาน ได้ยึดถือตามประเพณีปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ด้วยพระธรรมวงศาจารย์เป็นพระภิกษุที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราชญ์แห่งอีสาน มีความรู้ขนบธรรมเนียมเป็นอย่างดี

อีกทั้งยังเป็นพระภิกษุที่มีจริยวัตรที่งดงามจนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านอย่างมาก นอกจากนี้ ตลอดการถือครองเพศบรรพชิตของพระธรรมวงศาจารย์ยังดำเนินกิจกรรมและบำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์มาอย่างต่อเนื่อง และภายหลังที่พระธรรมวงศาจารย์ได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2554 และได้รับพระราชทานเพลิงศพในเดือนพฤศจิกายน 2554

โดยการอัญเชิญอัฐิธาตุของพระธรรมวงศาจารย์ขึ้นบนพระวิหารนิรโรคันตราย (หลวงพ่อองค์ดำ) ใต้ฐานรูปเหมือนขนาดเท่าองค์จริงของพระธรรมวงศาจารย์ที่อยู่ภายใน เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปสักการบูชา อย่างไรก็ตาม อัฐิธาตุที่เหลือส่วนใหญ่จะเก็บรักษาไว้เพื่ออัญเชิญเข้าไปบรรจุในพระธาตุเจดีย์ โดยได้ดำเนินการก่อสร้างที่วัดบ้านบึงวิชัย ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยพระธาตุเจดีย์ที่ก่อสร้างขึ้นจะเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงของเก่าของโบราณอายุหลายร้อยปีที่พระธรรมวงศาจารย์ได้สะสมมาตลอดทั้งชีวิตที่มีจำนวนหลายพันรายการ

ขณะนี้การก่อสร้างดำเนินการไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในวันที่ 3 ก.พ. 2556 จะทำพิธีอัญเชิญอัฐิธาตุมาบรรจุที่พระธาตุเจดีย์พร้อมพิธีเปิดอย่างสมบูรณ์

สำหรับพระธรรมวงศาจารย์ (สุข สุขณมหาเถร) หรือเจ้าคุณหลวงปู่สุข ได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2554 รวมอายุ 97 ปี 77 พรรษา โดยพระธรรมวงศาจารย์ถือได้ว่าเป็นพระราชาคณะชั้นสูงเพียงรูปเดียวของจังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งยังเป็นอดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าอาวาสวัดกลางพระอารามหลวง ในระหว่างที่อาพาธได้รับพระราชานุเคราะห์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเป็นคนไข้ในพระองค์จนละสังขารไปอย่างสงบที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์

พระธรรมวงศาจารย์ หรือเจ้าคุณหลวงปู่สุข ได้รับการยกย่องให้เป็นปราชญ์แห่งอีสานด้วยความสามารถพิเศษในการอ่าน-เขียนอักษรลาวโบราณ อักษรธรรม หนังสือผูก โดยมีผลงานเป็นหนังสือที่ตีพิมพ์เพื่อแจกจ่ายพุทธศาสนิกชนทั่วไปมากมาย เช่น อานิสงส์การสร้างพระอุโบสถ คู่มือพ่อบ้าน สาส์นวัดกลาง หลักการแต่งกาพย์กลอนต่างๆ อุบาทว์ 8 ประการ และหนังสือบาลีไวยกรณ์เพื่อสอนพระปริยัติธรรม รวมถึงหนังสือรวบรวมกาพย์กลอน ผญาคำสอนโบราณอีสาน

จนเมื่อปี 2534 ได้รับคัดเลือกจากกรมศิลปากรให้เป็นพระนักอนุรักษ์มรดกไทยดีเด่น ได้รับเข็มและโล่เกียรติคุณพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปี พ.ศ. 2535 ได้รับคัดเลือกจากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นผู้ส่งเสริม และอนุรักษ์วัฒนธรรมมรดกไทยทางพระพุทธศาสนา เนื่องในวันวิสาขบูชา 2535 ได้รับพระราชทานเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
กำลังโหลดความคิดเห็น