xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มธรรมยาตราโต้ปลัด ก.ต่างประเทศ ยันใช้อนุสัญญาโตเกียวสู้เขมรได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตราฯและคณะ แถลงข่าวตอบโต้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ยันอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941ไม่ถูกยกเลิกยกยังใช้ต่อสู่กรณีเขาพระวิหารได้ วันนี้ ( 16 ม.ค.)
ศรีสะเกษ - กลุ่มธรรมยาตราฯ แถลงโต้ปลัด ก.ต่างประเทศ กรณีอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 ยันอนุสัญญาโตเกียวไม่ถูกยกเลิก ยังสามารถใช้ต่อสู้เรื่องเขตแดนไทยเขาพระวิหารได้ เพราะลงนามเป็นสัตยาบันอย่างถูกต้อง และเป็นหนทางจะทำให้ไทยชนะได้ดินแดนจากเขมรกลับคืนมาทั้งหมด ตามเส้นแบ่ง “แม่น้ำโขง” เช่นเดิม

วันนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ “ศูนย์ประสานงานหมู่บ้านสมัชชาธรรมยาตราพิทักษ์สยาม ทวงคืนเขาพระวิหาร มณฑลบูรพา โดยอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941” บ้านโศกขามป้อม หมู่ 4 ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตราฯ และคณะ ได้แถลงข่าวตอบโต้กรณีปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาระบุว่า อนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 (พ.ศ.2484) นำมาใช้ในการต่อสู้เรื่องเขตแดนไทยกรณีเขาพระวิหารไม่ได้ เพราะได้ถูกยกเลิกไปแล้ว และกลับไปสู่สถานะเดิม ตาม “ความตกลงระงับกรณีระหว่างไทยกับฝรั่งเศส” หรือ “ความตกลงวอชิงตัน” ซึ่งทำที่กรุงวอชิงตัน เมื่อ 17 พฤศจิกายน 2489

โดย นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตราฯ กล่าวว่า การออกมาพูดเช่นนี้ของเจ้าหน้าที่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ถือว่าใช้ไม่ได้ แสดงว่าอาจไม่ได้มีความรู้เรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ และถือได้ว่าเป็นการแถลงยกดินแดนให้แก่ต่างชาติ เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับประชาชนชาวไทยผู้เสียภาษี ท่านเรียนจบมาจากสำนักกฎหมายไหนทำไมถึงไม่รู้เรื่องนี้อย่างถ่องแท้ ซึ่งพ่อตนเป็นทหารไปรบเอามณฑลบูรพา มาจากฝรั่งเศสด้วยความยากลำบาก และไทยเราก็ชนะสงครามด้วย

เรื่องนี้ฝ่ายการเมืองควรออกมาพูดเอง ไม่ใช่ให้ฝ่ายข้าราชการออกมาพูดผิดๆ อย่างไม่มีความรู้ เพราะอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 นั้น สามารถใช้ได้ตลอดเนื่องจากมีการลงนามเป็นสัตยาบันอย่างถูกต้องแล้ว รัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศควรลุกขึ้นสู้ อย่างถูกต้อง และสู้ให้ได้รับชัยชนะ โดยการหยิบยกเอาอนุสัญญาโตเกียวขึ้นมาต่อสู้ เพราะเราต้องเลือกเอาสัญญาที่ชนะไปต่อสู้ ไม่ใช่เอาสัญญาที่แพ้ไปสู้ หากไม่สู้ก็ควรถอนตัวออกมาจากศาลโลก ไม่ยอมรับอำนาจศาลไม่ว่ากรณีใดๆ

นายสมาน กล่าวต่อว่า ตนอยากฝากถามไปยังรัฐบาลว่า มีผลประโยชน์อันใดหรือไม่ จึงไม่กล้าที่จะนำเอาอนุสัญญาโตเกียวขึ้นมาต่อสู้ อยากให้ออกมาพูดความจริงไม่อยากให้ไปยึดกฎของประเทศนักล่าอาณานิคม เราไม่ได้ต้องการดินแดนของเขมร แต่เราต้องการเพียงความถูกต้อง และไทยเองก็ไม่ได้มีเรื่องกับกัมพูชา แต่เราเองนั้นมีปัญหากับฝรั่งเศสที่คอยเอาเปรียบไทย เพราะก่อนหน้านั้น กัมพูชายังไม่เป็นประเทศเลยด้วยซ้ำไป เราต้องยอมรับความจริง และข้อเท็จจริงกันได้แล้ว

“ข้อเรียกร้องของกลุ่มธรรมยาตราฯ ยังยืนยันต้องการให้รัฐบาลยื่นแย้ง หรือยื่นฟ้องต่อศาลโลกเพื่อพลิกกลับสถานการณ์จากที่เราจะแพ้ให้เป็นชนะ โดยการเอาความจริงเรื่องอนุสัญญาโตเกียวขึ้นมาสู้ ซึ่งหากภาครัฐไม่ดำเนินการ ภาคประชาชนก็ต้องลุกขึ้นสู้เอง โดยการยื่นฟ้องต่อศาลโลกเอง ทั้งนี้ กลุ่มธรรมยาตราฯ ไม่ได้คิดที่จะมาโค่นล้มรัฐบาล ไม่ได้คิดมาเล่นการเมืองแต่อย่างใด เพียงต้องการอยากให้มีการลุกขึ้นสู้เพื่อชาติบ้านเมืองของเราเท่านั้น” นายสมาน กล่าว

นายสมาน กล่าวเพิ่มเติมว่า อนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 เป็นอนุสัญญาที่ถูกต้อง และชอบธรรมที่สุดที่ไทยเราต้องนำเอาใช้ในการแก้ไขปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา ส่วนอนุสัญญาไทย-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 นั้นเป็นโมฆะ ไม่สามารถนำเอามาใช้บังคับได้ เนื่องจากไม่ได้ขอสัตยาบันจากรัฐสภาไทย จึงไม่ได้มีผลทำให้อนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 ถูกยกเลิกไปแต่อย่างใด ซึ่งประเด็นหลักของอนุสัญญาโตเกียว ก็คือ ใช้แม่น้ำโขงเป็นเส้นในการแบ่งเขตแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งหากใช้อนุสัญญาโตเกียวจะทำให้เขาพระวิหาร และมณฑลบูรพากลับมาเป็นของประเทศไทยทั้งหมดเช่นเดิม

“ตามข้อเท็จจริงแล้ว อนุสัญญาไทย-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 ไม่ได้มีสัตยาบันจากรัฐสภาไทยจึงใช้ไม่ได้ แต่ฝรั่งเศสใช้อิทธิพลตอนที่เป็นผู้ชนะสงครามบีบให้ นายปรีดี พนมยงค์ ลงนามในสัญญา ซึ่งนายปรีดี สามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้ จึงแกล้งลงนามในสัญญาให้ จากนั้นนายปรีดี ได้นำเอาสัญญาไทย-ฝรั่งเศสมาอ่านในรัฐสภา แล้วก็เดินออกไปโดยไม่ได้ขอสัตยาบันจากรัฐภาไทยแต่อย่างใด ดังนั้น ข้อตกลงวอชิงตันจึงเป็นโมฆะไม่มีผลในการผูกพันประเทศไทย และอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 ก็ไม่มีผลทำให้ถูกยกเลิกไปแต่อย่างใด” นายสมานกล่าวย้ำ

นายสมานกล่าวอีกว่า ในวันที่ 17 ม.ค.นี้ คณะกลุ่มธรรมยาตราฯ จะไปเดินรณรงค์ในเขตเทศบาลกันทรลักษ์ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเขาพระวิหารให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อที่จะได้ร่วมกันลงชื่อเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลโลกเพื่อขอให้นำเอาอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 มาใช้ในการแก้ไขปัญหากรณีเขาพระวิหารต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น