xs
xsm
sm
md
lg

“หลวงพ่อคูณ” ดีขึ้นเล็กน้อย ให้ยาฆ่าเชื้อต่อเนื่อง-ห้ามเยี่ยมเด็ดขาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่  พักรักษาอาพาธอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ล่าสุดอาการดีขึ้นเล็กน้อย และแพทย์ให้นักกายภาพเข้าทำกายภาพและนวดเบาๆเพื่อเร่งฟื้นฟูกล้ามเนื้อ วันนี้ (15 ม.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แพทย์ระบุอาการอาพาธ “หลวงพ่อคูณ” ล่าสุดดีขึ้นเล็กน้อย ไม่มีไข้ ให้ยาฆ่าเชื้อต่อเนื่องและล้างกระเพาะปัสสาวะทุกวัน พร้อมให้นักกายภาพทำกายภาพและนวดแผนโบราณเบาๆ เร่งฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังพักในห้องผู้ป่วยมานาน และสั่งงดเยี่ยมเด็ดขาด

วันนี้ (15 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พักรักษาอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ด้วยภาวะปอดอักเสบ ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดอาการทรุดเนื่องจากติดเชื้อซ้ำซ้อนในระบบทางเดินปัสสาวะและเกิดภาวะหลอดลมอักเสบอีกนั้น

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยล่าสุดว่า เช้าวันนี้หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นเล็กน้อย ไม่มีไข้ พูดคุยได้มากขึ้น แต่ยังมีเสลดเสมหะอยู่มาก แพทย์ยังต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป

สำหรับการรักษาได้ให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำต่อเนื่อง พร้อมพ่นยาขยายหลอดลม และให้ยาละลายเสมหะ ส่วนทางเดินปัสสาวะ ขณะนี้ได้ให้พยาบาลทำการล้างกระเพาะปัสสาวะทุกวันเพื่อให้ตะกอนต่างๆ ที่ก่อให้เกิดเชื้อโรคออกมาจากกระเพาะปัสสาวะให้หมด และวิธีการดังกล่าวนี้จะไม่ทำให้คนไข้ได้รับความทรมานแต่อย่างใด

นอกจากนี้ เนื่องจากหลวงพ่อคูณพักรักษาอยู่ในห้องผู้ป่วยมานาน กล้ามเนื้อต่างๆ ก็อ่อนแรง จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู ฉะนั้นในช่วงนี้จึงได้ให้นักกายภาพบำบัดเข้ามาทำกายภาพเบาๆ และนวดแผนโบราณให้ท่านบนเตียงผู้ป่วยทุกวันเพื่อเร่งฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ส่วนการรับอาหารทางสายยางผ่านเข้าทางช่องท้องนั้นยังทำได้ดี แต่อาจปรับปริมาณลดลงตามสภาพร่างกายของท่าน พร้อมกับให้ออกซิเจนเป็นครั้งคราวเมื่อท่านหายใจไม่สะดวก

“สิ่งที่คณะแพทย์เป็นห่วงและเฝ้าระวังอย่างเต็มที่คือ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นซ้ำได้อีก จึงต้องให้งดเยี่ยมอย่างเด็ดขาด เพราะร่างกายท่านอ่อนแอ ประกอบกับอายุมาก และมีโรคประจำตัวหลายอย่างด้วย” นพ.พินิศจัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น