พระนครศรีอยุธยา - ป.ป.ส.ติวเข้มตำรวจชุดจับกุม และขยายผลยึดทรัพย์คดียาเสพติดให้มีประสิทธิภาพในมาตรการเชิงรุก กับปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแบบยั่งยืน ปี 2556
วันนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานในการเปิดอบรม “การเพิ่มประสิทธิภาพชุดขยายผลและตรวจสอบทรัพย์สินในคดียาเสพติด” ระหว่างวันที่ 14-16 ม.ค.56 พร้อมด้วยนายพิสุทธิ์ ภู่เงิน ผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 1 (ผอ.ป.ป.ส.ภ.1) นายสงวนศักดิ์ ศรีวัฒนพงศ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ณ โรงแรมแคนทารี่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบัน ได้กำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และน้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในเรื่องยาเสพติดที่พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2554 มาปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วง โดยใช้ยุทธศาสตร์ “พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” เป็นยุทธศาสตร์หลัก
เพื่อให้ปฏิบัติการตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอชนะยาเสพติด ปี 2556 ให้บรรลุผล โดยเฉพาะมาตรการด้านการปราบปราม ให้ความสำคัญต่อการจับกุมข้อหาสำคัญ การสืบสวนขยายผล และยึดทรัพย์มากยิ่งขึ้น ได้กำหนดเป้าหมายการปราบปรามผู้กระทำความผิดคดียาเสพติดภายหลังการจับกุม โดยขยายผลทางการข่าว การสืบสวน หรือใช้มาตรการทางทรัพย์สิน จำนวน 40,000 คดี และดำเนินการด้านทรัพย์สินในคดียาเสพติด จากกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องแบบบูรณาการ โดยเป้าหมายปริมาณทรัพย์สิน2,000 ล้านบาท
คดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีการดำเนินงานเป็นเครือข่าย ขบวนการ หรือองค์กรอาชญากรรม และมีความสลับซับซ้อน ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน และแหล่งที่มาของข้อมูลการสืบสวนสอบสวน ประกอบข้อมูลที่หลากหลาย การใช้มาตรการริบทรัพย์สินที่ใช้ หรือได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์สิน ถือเป็นมาตรการสำคัญ และมีประสิทธิภาพในการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด เนื่องจากเป็นการตัดทอนกำลังการผลิต การค้าให้ลดน้อยลง สำนักงาน ป.ป.ส. และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เห็นความจำเป็นในการพัฒนาความรู้ ความสามารถให้ชุดขยายผลและตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด เป็นการเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานเฉพาะด้าน ในการการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุมและตรวจสอบทรัพย์สินในคดียาเสพติดได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
วันนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานในการเปิดอบรม “การเพิ่มประสิทธิภาพชุดขยายผลและตรวจสอบทรัพย์สินในคดียาเสพติด” ระหว่างวันที่ 14-16 ม.ค.56 พร้อมด้วยนายพิสุทธิ์ ภู่เงิน ผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 1 (ผอ.ป.ป.ส.ภ.1) นายสงวนศักดิ์ ศรีวัฒนพงศ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ณ โรงแรมแคนทารี่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบัน ได้กำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และน้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในเรื่องยาเสพติดที่พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2554 มาปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วง โดยใช้ยุทธศาสตร์ “พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” เป็นยุทธศาสตร์หลัก
เพื่อให้ปฏิบัติการตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอชนะยาเสพติด ปี 2556 ให้บรรลุผล โดยเฉพาะมาตรการด้านการปราบปราม ให้ความสำคัญต่อการจับกุมข้อหาสำคัญ การสืบสวนขยายผล และยึดทรัพย์มากยิ่งขึ้น ได้กำหนดเป้าหมายการปราบปรามผู้กระทำความผิดคดียาเสพติดภายหลังการจับกุม โดยขยายผลทางการข่าว การสืบสวน หรือใช้มาตรการทางทรัพย์สิน จำนวน 40,000 คดี และดำเนินการด้านทรัพย์สินในคดียาเสพติด จากกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องแบบบูรณาการ โดยเป้าหมายปริมาณทรัพย์สิน2,000 ล้านบาท
คดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีการดำเนินงานเป็นเครือข่าย ขบวนการ หรือองค์กรอาชญากรรม และมีความสลับซับซ้อน ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน และแหล่งที่มาของข้อมูลการสืบสวนสอบสวน ประกอบข้อมูลที่หลากหลาย การใช้มาตรการริบทรัพย์สินที่ใช้ หรือได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์สิน ถือเป็นมาตรการสำคัญ และมีประสิทธิภาพในการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด เนื่องจากเป็นการตัดทอนกำลังการผลิต การค้าให้ลดน้อยลง สำนักงาน ป.ป.ส. และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เห็นความจำเป็นในการพัฒนาความรู้ ความสามารถให้ชุดขยายผลและตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด เป็นการเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานเฉพาะด้าน ในการการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุมและตรวจสอบทรัพย์สินในคดียาเสพติดได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น