โฆษก ตร.แจงคดีนักเรียนสายน้ำผึ้งตกคอนโดฯ

โฆษกตำรวจแถลงยืนยันคดี “น้องปิ่น” เด็กนักเรียนโรงเรียนสายน้ำผึ้งตกคอนโดฯ เสียชีวิต โปร่งใสผลตรวจชี้ชัดไม่ใช่ฆาตกรรม-ข่มขืน เตรียมแจงแม่เด็กให้เข้าใจและทำใจและเพื่อนมาแห่โลงศพวานนี้ “อดุลย์” มอบรางวัล 2 ตำรวจพลับพลาไชย 1 ยิงสกัดคนร้ายที่เยาวราช ชมเชยไหวพริบดี เตือนระวังคนร้ายพร้อมสวนหวั่นเกิดอันตราย

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกตร. แถลงชี้แจงถึงกรณีนักเรียนรร.สายน้ำผึ้งและรร.พระโขนงพิทยาลัยแบกโลงศพมายื่นหนังสือต่อตร.ทวงถามความเป็นธรรมให้ด.ญ.ปิ่นสุดา ทรัพย์มี หรือ น้องปิ่น อายุ 14 ปี นักเรียนรร.สายน้ำผึ้ง ซึ่งประสบอุบัติเหตุตกคอนโดฯ หรูเสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 5 ก.ย.55 ว่า การดำเนินการของพนักงานสอบสวนหลังส่งศพไปตรวจที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.จุฬาฯ ผลการตรวจแพทย์ยืนยันว่า กระดูกเชิงกรานหัก ปอดและตับฉีดขาด หัวใจฟกช้ำ และจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุของกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรอยลายฝ่าเท้าแฝงได้ในที่เกิดเหตุ แต่เมื่อเปรียบเทียบรอยลายฝ่าเท้าขวาและซ้ายของน้องปิ่น ผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าเป็นรอยลายฝ่าเท้าของน้องปิ่น ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คอนโดฯ ที่เกิดเหตุพบว่าน้องปิ่นเข้าห้องเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.55 เวลา 16.00 น.เศษ แล้วไม่ได้ออกมาจากห้องอีก นอกจากนี้ ยังไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าไปที่ห้องของน้องปิ่น โดยทางพนักงานสอบสวนได้ส่งภาพจากกล้องไปตรวจที่กลุ่มงานตรวจพิสูจน์อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สพฐ. ผลการตรวจยืนยันว่าไม่มีการตัดต่อ

โฆษกตร. กล่าวอีกว่า เมื่อได้แจ้งผลการตรวจสอบให้น.ส.ปาระมี ทรัพย์มี มารดาน้องปิ่นทราบแล้ว แต่น.ส.ปาระมีไม่เห็นด้วน พนักงานสอบสวนจึงได้ส่งศพไปตรวจที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ อีกครั้ง ซึ่งผลการตรวจแพทย์ยืนยันว่า ไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืน และตรวจสอบเล็บมือซ้ายขวาของศพ ไม่พบเนื้อเยื่อของบุคคลอื่นแต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวนเชื่อว่าน้องปิ่นตกจากอาคารสูง แต่น.ส.ปาระมี ยังต้องการให้ส่งศพไปให้ คุณหญิงพญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็นผู้ตรวจ ซึ่งผบก.น.5 และรอง ผบก.น.5 จะชี้แจงทำความเข้าใจให้น.ส.ปาระมีทราบอีกครั้ง

“กรณีดังกล่าวมีความคืบหน้าตลอด โดยเจ้าหน้าที่จะรายงานให้แม่ของน้องปิ่นทราบทุกครั้ง และได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทุกปากแล้ว เบื้องต้นไม่พบพิรุธ ส่วนการตรวจพิสูจน์ศพมีห้วงเวลาที่ต้องรอผลตรวจ อาจทำให้การชี้แจงไม่ครบถ้วนจนเกิดข้อบกพร่อง ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้รับหนังสือแล้วเมื่อเช้า และได้รับทราบถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่เพื่อความสบายใจได้มอบหมายให้พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. ตรวจสอบความคืบหน้าต่างๆ และให้ผบก.น. 5 ไปช่วยดูแล พร้อมทั้งชี้แจงให้คลายความในใจทั้งกรณีรองเท้า การตรวจพิสูจน์ศพ และภาพจากกล้องวงจรปิดที่แม่สงสัยว่าจะมีการตัดต่อหรือไม่”

โฆษกตร. กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ด.ต.มนู มั่นฤกษ์ และ ด.ต.ไฉน บัวจำรัส เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.พลับพลาไชย 1 สกัดจับนายเกรียงไกร ชาวเมืองโขน อายุ 36 ปี ขณะขับรถกระบะที่มียาไอซ์จำนวนหนึ่งหลบหนีการจับกุม บริเวณถนนเยาวราช ปากซอยผดุงด้าว แขวงและเขตสัมพันธ์วงศ์ จนทำให้เกิดเหตุชุลมุนและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมานั้น พล.ต.อ.อดุลย์ ได้สอบถามอาการทราบว่า ตร.ทั้งสองนายได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว โดยผบ.ตร.ได้กล่าวยกย่องชมเชย มีความกล้าหาญ มีไหวพริบ และได้มอบเงินให้รายละ 1 หมื่นบาท และกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายระวังตัว เพราะคนร้ายพร้อมสู้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ.ตร. และพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. จัดทำหลักสูตรอบรมฝึกอบรมการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทั้งหมด โดยให้เริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป