ตาก- ผู้ว่าฯ ตากเข้มพื้นที่ควบคุมไฟป่า 2.5 แสนไร่ คาดโทษคนเผาจำคุกหนัก 2-15 ปี ปรับสูงสุด 1.5 แสน
วันนี้ (11 ม.ค.) นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สอด อ.ท่าสองยาง อ.พบพระ อ.แม่ระมาด และ อ.อุ้มผาง ว่า ฝ่ายปกครองได้ประสานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช วิเคราะห์ข้อมูลและติดตามสถานการณ์ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม คาดว่าไฟป่าและหมอกควันจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เพราะความแห้งแล้งมาเร็ว สภาพอากาศผันผวน ชาวบ้านเผาป่าเตรียมที่ดินเพื่อทำการเกษตร
“เพื่อป้องกันความเสียหาย จึงกำหนดพื้นที่ควบคุมไฟป่ากว่า 250,000 ไร่ คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันออก อ.อุ้มผาง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น อ.แม่ระมาด อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช อ.แม่สอด อุทยานแห่งชาติลานสาง อ.เมือง และอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ อ.พบพระ ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่ามาก”
นายสุริยะกล่าวว่า สำหรับพื้นที่ป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง บริเวณอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ อ.แม่ระมาด และ อ.แม่สอด ป่าบริเวณสองข้างทางหลวงแผ่นดินสายตาก-แม่สอด อ.เมือง และ อ.แม่สอด ป่าสองข้างทางหลวงแผ่นดินสายพบพระ-อุ้มผาง อ.พบพระ และอ.อุ้มผาง รวมถึงสองข้างทางหลวงแผ่นดินสายตาก-ลำปาง อ.บ้านตาก และ อ.สามเงา เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและความเสียหายด้านอื่น เช่น หมอกควัน มลภาวะทางอากาศ
“ถ้าจำเป็นต้องเผาไร่หรือเผาวัชพืชในที่ดินทำกินเขตควบคุม ผู้ครอบครองที่ดินต้องขออนุญาตจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน ต้องจัดทำแนวกันไฟ หากไม่ขออนุญาต หรือขออนุญาตแล้วแต่ไม่จัดทำแนวกันไฟ และไม่ได้ควบคุมไฟให้อยู่ในพื้นที่ครอบครอง เป็นเหตุให้ไฟลุกลามไหม้ป่า จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”
นายสุริยะกล่าวว่า ส่วนเขตควบคุมไฟป่า ราษฎรต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่ากรณีที่ทางราชการร้องขอ หากพบเห็นไฟไหม้ป่าบริเวณใดให้ช่วยกันดับ หากไฟป่าขยายวงให้รีบแจ้งส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าตาก สถานีควบคุมไฟป่าตาก สถานีควบคุมไฟป่าแม่สอด และสถานีควบคุมไฟป่าอุ้มผาง หรือหน่วยงานในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 ตาก เพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้าไประงับไฟป่าทันที
“หากมีการจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ผู้ฝ่าฝืนจะต้องมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ โทษจำคุก 2-15 ปี ปรับ 20,000-150,000 บาท และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 220 ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท”