ผอ.สำนักพื้นที่อนุรักษ์ 9 ย้ำจับมอดไม้พะยูงได้ต้องตั้งข้อหาให้หนัก

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ย้ำเจ้าหน้าที่ในสังกัดพื้นที่มุกดาหารเข้มจับกุมมอดพะยูงพร้อมตั้งข้อหาให้หนักเพื่อให้เข็ดหลาบและปราบปรามผู้กระทำผิดเพิ่ม ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งปกครอง-ฝ่ายมั่นคง-เจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องบูรณาการการทำงานให้มากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาลอบตัดไม้ทำลายป่าสัมฤทธิ์ผล

รายงานข่าวแจ้งว่า นายชาญชัย งามเจริญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ได้เดินทางลงตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อมอบนโยบายกับเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในด้านการปราบปรามไม้พะยูงและให้ปฏิบัติงานแบบบูรณาการกับทุกหน่วยงาน และหลังมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่แล้วได้เข้าพบนายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และฝ่ายความมั่นคง พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหาร เพื่อประสานงานการการปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูง แบบบูรณาการ ทั้งในพื้นที่ป่าเขา และเส้นทางการลักลอบขนไม้พะยูงส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน และได้นำเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ไม่ว่าจะเป็นหน่วยอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ด่านตรวจสัตว์ป่าไซเตส โครงการจัดการต้นน้ำไฟป่า ที่จะผนึกกำลังกันทำในเรื่องยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง และทำลายป่าได้รับความเสียหาย

นายชาญชัย งามเจริญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากการเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานในพื้นที่ ต่างก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานฯมีผลงานการปราบปรามไม้พะยูง และการบุกรุกทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง โดยการทำงานแบบบูรณาการนั้นจะสามารถแก้ไขปัญหาตัดไม้ทำลายป่า และสามารถทำให้ป่าของเราให้กลับคืนมาได้ก็จะเป็นประโยชน์ในการรักษาทรัพยากรของชาติไว้เป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจร่วมกัน

นายชาญชัยกล่าวเพิ่มอีกว่า ในส่วนของการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวไม้พะยูง ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในสังกัด หากมีการจับกุมให้ดำเนินคดีโดยให้ตั้งข้อกล่าวหา ให้ครบทุกขบวนการและตั้งข้อกล่าวหาให้หนัก เพื่อจะได้เป็นการป้องปรามไปในตัว และยังกำชับเจ้าหน้าที่ในสังกัดอีกว่า หากมีการประสานงานจากหน่วยงานข้างเคียงต้องให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ถึงจะเป็นการทำงานแบบบูรณาการที่แท้จริง

ซึ่งหากหน่วยงานในสังกัดไม่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานข้างเคียง ตนจะพิจารณาโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาดต่อไป