อุดรธานี - ตร.อุดรธานี จับ 2 หนุ่มใต้ฆ่าหนุ่มสวนยางก่อนเผาอำพรางคดี รับสารภาพแค้นผู้ตายเอายาบ้าปลอมมาขายให้ และถูกด่าบุพการี
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่หน้ากองกำกับการภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.บุญลือ กองบางยาง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสือบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น และเผาศพอำพรางคดีต่อสื่อมวลชน ประกอบด้วย นายพิทักษ์ หนูเนียม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/6 หมู่ 4 ต.ป่าร้อน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี เลขที่ จ.22/2556 ลงวันที่ 9 ม.ค.56 และนายสันต์ นามสมมุติ อายุ 16 ปี ชาว ต.ป่าร้อน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ตามหมายจับของศาลเยาวชน และครอบครัว จังหวัดอุดรธานี เลขที่ จ.3/2556 ลงวันที่ 9 ม.ค.56 พร้อมของกลาง สนับมือ 1 อัน, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, ท่อนไม้ 1 ท่อน, รถจักรยายนต์ จำนวน 2 คัน , รถเข็น 1 คัน และถังแกลลอนน้ำมัน 1 ถัง
สืบเนื่องจากวันที่ 4 ม.ค.56 ที่ผ่านมา ได้พบศพชายถูกฆ่าแล้วเผาอำพรางศพในบ่อทิ้งขยะของ อบต.สร้างก่อ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ทราบชื่อคือ นายสุรเชษฐ์ มณีแสง อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 11 ม.1 บ้านสร้างก่อ ต.สร้างก่อ อ.กุจับ จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจึงได้ติดตามจับกุม หลังก่อเหตุมีคนงานรับจ้างกรีดยางในสวนส้ม หายตัวไป 2 คน ทราบชื่อคือ นายพิทักษ์ หนูเนียม และนายสันต์ นามสมมุติ
จากการสืบสวนติดตามสามารถจับกุมทั้งสองได้ โดยทั้งสองได้หลบหนีไปอยู่บ้านญาติที่ อ.รัษฏา จ.ตรัง จึงได้นำกำลังพร้อมกับหมายจับเดินทางไปทำการจับกุม แล้วนำตัวมายัง สภ.เมืองอุดรธานี
จากการสอบสวนนายพิทักษ์ หนูเนียม ให้การว่า ตนทั้งสองมารับจ้างกรีดยาง ในอ.กุดจับ ซึ่งได้รู้จักผู้ตาย เป็นคนงานรับจ้างกรีดยางด้วยกัน โดยก่อนเกิดเหตุได้สิ่งซื่อยาบ้าจากผู้ตายมา 2 เม็ด ผู้ตายนำยาบ้าปลอมมาขายให้ตน จึงเกิดความโกรธ ประกอบกับผู้ตายชอบด่าว่าบุพการีด้วยจึงเกิดความโกรธแค้น และวางแผนหลอกผู้ตายออกมาเพื่อฆ่า โดยใช้ท่อนไม้ฟาดเข้าที่ศีรษะของผู้ตาย จากนั้นนายสันต์ ได้ใช้สนับมือชกเข้าที่ใบหน้า และศีรษะผู้ตายหลายสิบครั้งจนแน่นิ่ง
แล้วนำศพผู้ตายใส่รถเข็นนำไปทิ้งบ่อทิ้งขยะของ อบต.สร้างก่อ พร้อมกับเผา จากนั้นนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งในลำห้วยบาก ระห่างบ้านกงหันไปบ้านสร้างก่อ ก่อนที่จะพากันหลบหนี จนมาถูกตำรวจตามมาจับกุมเอาไว้ได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป