เพชรบุรี - ตำรวจเมืองเพชรบุรี ระดมกำลังเข้าปิดล้อม และไล่ล่าคนร้ายที่บุกเข้าไปขโมยลักทรัพย์เป็นเงินสด 50,000 บาท ภายในบ้านของหญิงชราวัย 75 ปี ก่อนทิ้งรถยนต์เก๋งหลบหนี
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (9 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ได้กระจายกำลังเข้าค้นหาผู้ต้องสงสัยก่อเหตุลักทรัพย์ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.เพชรบุรี ที่หลังก่อเหตุงัดบ้านหญิงชราวัย 75 ปี เข้าไปขโมยเงินสด จำนวน 50,000 บาท โดยหลังก่อเหตุแล้วได้ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรลน่า รุ่นเก่า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ฉท 8492 กรุงเทพมหานคร ออกไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งขับไปถึงบริเวณถนนบันไดอิฐ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะสามารถทะลุออกสู่ถนนเพชรเกษมสายหลักได้ และได้ไปเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังอำนวยการจราจรอยู่พอดีจึงได้เลี้ยวรถหลบหนีเข้าไปในซอยบันไดอิฐ ซอย 6 ต.บ้านหม้อ อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถจักรยานยนต์ตามไป โดยในซอยดังกล่าวเป็นทางตันผู้ต้องสงสัยจึงได้จอดรถทิ้งก่อนที่วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะด้านหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังปิดล้อม และค้นหานานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าทึบ และติดกับถนนเพชรเกษมที่คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะวิ่งไปถึงถนนใหญ่ก่อนที่จะมีกำลังตำรวจมาสนับสนุน
จากการตรวจสอบภายในรถยนต์พบหลักฐานการทำประกันของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวกับบริษัทเจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) อยู่ภายในลิ้นชักเก็บสัมภาระด้วยหน้า โดยระบุชื่อเจ้าของรถ คือ นายวันชัย นิพิฐวิทยา อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 9 ซอยปัญจทรัพย์ แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งทะเบียนเป็นทะเบียนเดียวกันกับรถที่ผู้ต้องสงสัยจอดทิ้งไว้ก่อนหลบหนีไปอีกด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบอีกทั้งครั้งว่าผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลเดียวกันกับเอกสารที่พบในรถหรือไม่
ด้านผู้เสียหาย คือ นางบุญส่ง กลิ่นนิรัญ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 372 ถ.พานิชเจริญ ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุกำลังไปเข้าห้องน้ำ และเมื่อเดินออกมาก็พบกับชายรูปร่างสูงลักษณะเป็นคนจีน สวมเสื้อคลุมสีขาว อยู่ภายในบ้านก็ตกใจจึงส่งเสียงร้องตะโกนให้คนช่วยเพราะปกติจะไม่มีผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน และเมื่อผู้ก่อเหตุเห็นนางบุญส่งก็ได้รีบวิ่งหนีออกมาจากตัวบ้านพร้อมวิ่งขึ้นรถขับหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเพื่อนบ้านเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยสกัดจับ
จากการตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปพบว่า เงินสดจำนวน 50,000 บาท ที่นางบุญส่ง ได้ใส่ไว้ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าไม้ ได้ถูกคนร้ายขโมยไปทั้งหมด ที่มีธนบัตร 1,000 บาท จำนวน 4 มัด และอีกมัดมีธนบัตร 1,000 บาท 100 บาท และ 500 บาท มัดรวมกันไว้อีก 10,000 บาท รวมเป็นเงินสดที่ถูกขโมยไปในครั้งนี้ จำนวน 50,000 บาท
สำหรับนางบุญส่ง พักอาศัยอยู่เพียงลำพังกับหลานสาวที่มีความพิการทางสมอง ซึ่งทุกวันที่อยู่บ้านจะต้องทำการปิดประตูเหล็กเอาไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ไม่ได้คล้องกุญแจ อีกทั้งขณะเกิดเหตุ หลานสาวกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนบริเวณหน้าบ้าน ส่วนตนกำลังเข้าห้องน้ำ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมาดูลาดเลาไว้ก่อนล่วงหน้าว่าบ้านหลังนี้มีเพียงผู้สูงอายุ และคนพิการอาศัยอยู่เพียงลำพังเท่านั้น และเมื่อสบโอกาสก็ได้งัดประตูเหล็กหน้าบ้านย่องเข้ามาขโมยทรัพย์สินไป แต่โชคดีที่คนร้ายไม่ได้ทำอะไรที่ร้ายแรงไปกว่านี้