ศูนย์ข่าวศรีราชา - สองโจรผัวเมียหิวโซมาขอข้าววัดกินไม่พอ แอบย่องเข้ากุฏิเจ้าอาวาสวัดบ่อวิน เข้าไปลักเงินในตู้บริจาคอีกกว่าสองหมื่นบาท เจ้าอาวาสตื่นขึ้นมาพบพากันวิ่งหนีขึ้นจักรยานยนต์ หนีหายไปไร้ร่องรอย
เย็นวานนี้ (20 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายบรรจง แก้วมณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่า ได้มีสองโจรผัวเมียย่องเข้าไปลักเงินในตู้บริจาค ภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดบ่อวิน ที่อยู่ในตำบลเดียวกันหายไปอย่างไร้ร่องรอย ผู้สื่อข่าวจึงรีบเดินทางไปที่วัดบ่อวินทันที
เมื่อไปถึงที่วัดบ่อวิน ได้พบกับนายบรรจง แก้วมณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ผู้แจ้งเหตุพร้อมด้วยพระลูกวัดอีก 2 รูป กำลังนั่งสนทนากับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นที่บริเวณหน้ากุฏิเจ้าอาวาส ส่วนภายในกุฏิ พบพระครูวิจิตร สมัตถคุณ อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ่อวินกำลังนั่งสมาธิอยู่ภายในกุฏิ จึงเข้าไปสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
พระครูวิจิตร ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. ขณะที่ตนกำลังจำวัดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงดังกุกกักอยู่ภายนอกห้องเป็นเวลานาน ด้วยความสงสัยจึงเปิดประตูออกมาดู พบผู้ชายกำลังรื้อตู้รับบริจาค และกวาดเงินบริจาคที่อยู่ในตู้ จึงถามออกไปว่า กำลังทำอะไร เมื่อชายคนดังกล่าวได้ยินจึงหันมามองแล้วรีบวิ่งออกจากกุฏิไป โดยมีผู้หญิงสวมเสื้อคลุม ใส่หมวกยืนอยู่ริมหน้าต่างด้านนอกกุฏิวิ่งตามไปด้วยกัน จึงเดินไปเรียกพระลูกวัดให้ช่วยกันจับ แต่พระลูกวัดออกมาไม่ทัน เนื่องจากเจ้าอาวาสมีอายุมากแล้วจึงทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง เดินไปตามพระลูกวัดช้า โจรจึงหนีไปได้ จึงได้แจ้งไปให้ผู้ใหญ่บรรจงทราบ และรีบมาดูที่เกิดเหตุ และได้ทำการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบทันที
จากการสอบถาม นายจำเริง แซ่โง้ว อายุ 58 ปี นักการภารโรงของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดบ่อวิน ก็ทราบว่า “เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ขณะที่ตนนั่งอยู่หน้ากุฏิเจ้าอาวาส ก็มีชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งฝ่ายชายอายุประมาณ 30-35 ปี ผิวคล้ำดำ สูงประมาณ 150 ซม. รูปร่างสันทัด ตัดผมสั้น ที่บริเวณหางตามีรอยสักสีดำ บริเวณน่องมีรอยสักทั้งสองข้าง ใส่เสื้อสีขาว กางเกงเจเจสีเหลือง ส่วนผู้หญิงลักษณะผอม ผิวดำแดง ตัวเล็ก สูงประมาณ 160 ซม. ผมยาว หน้าตาไม่ดี ใส่หมวกแก๊ป ใส่เสื้อคลุม กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน เดินเข้ามาหาตน และมานั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนถามหาเจ้าอาวาส ตนก็บอกไปว่าเจ้าอาวาสจำวัดอยู่ ช่วงบ่ายๆ ค่อยมาหาใหม่
แต่ทั้งสองคนก็ไม่ยอมไป และได้บอกว่าพวกเค้าทั้งสองคนกำลังตกงานอยู่ และหิวข้าว มาขอข้าวเจ้าอาวาสกินหน่อย ตนก็เลยบอกว่าให้ไปเอาจานช้อนมาตักกินได้เลย ซึ่งท่านเจ้าอาวาสจะบิณฑบาตอาหารทุกเช้า แล้วพอฉันเสร็จก็จะเอาอาหารที่เหลือจากฉันไปไว้ที่บริเวณโต๊ะหินอ่อนหน้ากุฏิ เพื่อเป็นทานให้แก่คนแถววัดที่ไม่มีอะไรจะกินนำไปแบ่งกินกันเป็นประจำทุกวัน หลังจากนั้น ตนก็ออกไปทำธุระด้านนอกวัด จนทราบข่าวว่ากุฏิเจ้าอาวาสถูกคนร้ายเข้าไปขโมยเงินจึงรีบกลับมา และได้บอกรายละเอียดแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ส่วนรถจักรยานยนต์เห็นตอนแรกเป็นรถ 4 จังหวะทั่วไป ไม่ทราบยี่ห้อ สีชมพูคาดขาว ตะกร้ารถสีดำ ไม่ทราบทะเบียน จอดอยู่ข้างโบสถ์ คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย ที่ใช้เป็นพาหนะขับหลบหนีไป
ทางด้านผู้ใหญ่บรรจง แก้วมณี ได้กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับพระครูวิจิตร เจ้าอาวาสวัดบ่อวินแล้วทราบว่า คนร้ายเป็นชายหญิงได้ย่องเข้ามาในกุฏิ ซึ่งปิดประตูกระจกไว้เฉยๆ โดยไม่ได้ล็อกกุญแจด้านนอกไว้ โดยเจ้าอาวาสลืมกุญแจไว้ที่แม่กุญแจด้วย จึงใช้กุญแจไขประตูเข้าไปด้านในกุฏิได้ และได้ไปรื้อข้าวของภายในกุฏิก่อนที่จะไปเอากุญแจตู้รับบริจาคที่แขวนไว้กับกำแพงมาไข ตู้รับบริจาคแล้วขโมยเงินในตู้รับบริจาคไปจนหมด ก่อนที่เจ้าอาวาสจะตื่นขึ้นมาพบ และหลบหนีไป ซึ่งเงินในตู้รับบริจาคทั้งสองตู้มีเงินสดอยู่ประมาณกว่าสองหมื่นบาท จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามโจรใจบาปมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
จากเหตุการณ์นี้ ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างโกรธแค้นโจรใจบาปสองชายหญิงคู่นี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากมาขอข้าววัดกินแล้วยังไม่รู้จักบุญคุณที่ท่านเจ้าอาวาสได้ให้ข้าวกิน หนำซ้ำยังมาลักขโมยเงินทำบุญที่ผู้มีจิตศรัทธามาบริจาคเงินให้แก่วัดอีก จึงพากับสาปแช่งให้โจรใจบาปทั้งสองคนพบกับเคราะห์กรรมกันต่าง ๆ นานาอีกด้วย
