ชาวบ้านสารภีรวมตัวล่ารายชื่อไล่ผู้ใหญ่บ้าน อ้างชอบด่า-เล่นการพนัน

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวบ้านดอนแก้ว หมู่ 1 ร้องจังหวัดเร่งถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน สุดทนพฤติกรรม ทั้งเล่นการพนัน-อวดเบ่งด่าทอชาวบ้าน เผยเคยยื่นเรื่องผ่านอำเภอสารภีปี 54 แต่เงียบไป เลยยื่นใหม่ก่อนสิ้นปี 55 ด้านปลัดจังหวัดขอเวลา 15 วันตรวจสอบ ก่อนหาทางแก้ไข

วันนี้ (8 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ว่า ประชาชนจากบ้านตำหนัก หมู่ 1 ต.ดอนแก้ว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ประมาณ 50 คนมายังศาลากลางจังหวัดเพื่อยื่นหนังสือ พร้อมรายชื่อเรียกร้องให้จังหวัดพิจารณาถอดถอนนายณรงค์ พวงมาลัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ดอนแก้ว เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายประการ ประกอบกับการยื่นเรื่องถอดถอนผ่านทางอำเภอสารภียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยกลุ่มประชาชนซึ่งนำโดย น.ส.แสงหล้า เขียวทอง ชี้แจงต่อนายสุรพล สัตยารักษ์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ว่า นายณรงค์ทั้งเล่นการพนัน ใช้งบประมาณของหมู่บ้านไม่โปร่งใส ข่มขู่คุกคาม พูดจา และแสดงท่าทางวางอำนาจกับลูกบ้าน

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่านายณรงค์มักจะแสดงท่าทีว่ามีตำแหน่งหน้าที่สูงกว่าชาวบ้าน และพูดจาในเชิงข่มขู่คุกคามอยู่เป็นประจำ เมื่อมีชาวบ้านทนไม่ไหวก็เกิดการชกต่อยกันจนนายณรงค์ได้รับบาดเจ็บก็ถือโอกาสฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย รวมทั้งขู่จะเล่นงานคู่กรณี นอกจากนี้คนใกล้ชิดยังตกเป็นผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดด้วย

จากพฤติกรรมดังกล่าว ชาวบ้านจึงได้ร่วมลงชื่อยื่นถอดถอนนายณรงค์ในปี 2554 โดยยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อ 161 คนไปยังอำเภอสารภี แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ทำให้เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2555 ชาวบ้านได้ร่วมลงชื่ออีกครั้งรวม 190 คน ก่อนจะยื่นหนังสือไปยังอำเภอเป็นครั้งที่สองเพื่อขอถอดถอนนายณรงค์ ซึ่งทางอำเภอสารภีรับเรื่องไว้ และออกประกาศให้ประชาชนที่เข้าชื่อมารับการตรวจสอบรายชื่อในวันที่ 13 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ที่ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ 1 ต.ดอนแก้ว

อย่างไรก็ตาม การนัดตรวจสอบรายชื่อได้สร้างความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับทางอำเภอ เนื่องจากชาวบ้านได้แจ้งขอเลื่อนวันและสถานที่ โดยให้เหตุผลว่าในวันดังกล่าวมีประชาชนที่ร่วมลงชื่อบางส่วนมีกิจธุระสำคัญ อีกทั้งศาลาอเนกประสงค์อยู่ห่างจากบ้านของนายณรงค์ไม่มากนักเกรงว่าอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกันได้ จึงขอให้เปลี่ยนเป็นที่ว่าการอำเภอสารภีแทน แต่ทางอำเภอไม่ยินยอมจนเกิดการปะทะคารมกันระหว่างชาวบ้านกับนายอำเภอ ทำให้ชาวบ้านตัดสินใจมายื่นเรื่องต่อจังหวัดเพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลแทน

ด้านนายสุรพลชี้แจงต่อกลุ่มชาวบ้านว่า จังหวัดจะเร่งตรวจสอบภายใน 15 วันก่อนที่จะกำหนดมาตรการแก้ไขต่อไป ส่วนกรณีที่ชาวบ้านมีข้อขัดแย้งกับทางอำเภอจะประสานไปยังอำเภอเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป ซึ่งเมื่อชาวบ้านได้ฟังคำชี้แจงจากนายสุรพลแล้วต่างพอใจและยอมสลายตัวไปในที่สุด

น.ส.แสงหล้ากล่าวว่า นายณรงค์เคยเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาก่อน ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่บ้านคนก่อนและชาวบ้านทำให้ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งระยะแรกปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีมาตลอด แต่เมื่ออยู่ในตำแหน่งนานเข้าก็เริ่มแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่าง โดยเฉพาะการพูดจาข่มขู่ และดูถูกดูแคลนชาวบ้าน ทำให้กลุ่มชาวบ้านทนไม่ไหว ต้องรวบรวมรายชื่อและออกมาร้องเรียนให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง