ศูนย์ข่าวศรีราชา - ททท.พัทยา ลุยแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 56 หลังยอดรายได้ปีก่อนทะลุ 8 หมื่นล้าน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เดินหน้าจัดโรดโชว์ และร่วมงานเทรดโชว์ใหญ่ ทั้งในอินเดีย ลาว และเยอรมนี เปิดตลาดท่องเที่ยวผ่านเส้นทางเลียบถนนชายทะเล “ชลมารควิถี” จับกลุ่มนักเที่ยวรถคันแรก และครอบครัวช่วงปิดภาคเรียน
วันนี้ (4 ม.ค.) นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพัทยา เปิดเผยถึงแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวหลังเปิดศักราชใหม่ปี 2556 ว่า หลังจากช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2555 เมืองพัทยาต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติช่วงไฮซีซัน รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จนทำให้ยอดจองห้องพักของจุดท่องเที่ยวเต็มหมด และยังส่งผลให้ยอดรายได้ของเมืองพัทยา และ จ.ชลบุรี ตลอดปี 2555 คาดว่าจะมีไม่น้อยกว่า 8 หมื่นล้านบาท มียอดนักท่องเที่ยวกว่า 8 ล้านคน ถือว่าเพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการณ์ไว้ 8-10% ยอดรายได้เติบโต 5-10%
“จากนี้ไป ททท.พัทยาจะเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตามที่วางไว้ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ในใจของคนทั่วโลก ที่มีโรงแรมหลายราคาให้เลือก โดยกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในต่างประเทศช่วงต้นปี จะเริ่มที่การร่วมเปิดบูธในงาน Satte ซึ่งเป็นงานเทรดโชว์ที่จัดขึ้นในประเทศอินเดีย วันที่ 16-18 มกราคม จากนั้นจะเข้าร่วมงานอาเซียน ทราเวล เฟสติวัล ซึ่งจัดที่นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว วันที่ 21-24 มกราคม โดยคืนวันที่ 23 มกราคม 2556 ททท.จะจัดงานพัทยาไนต์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวลาวรู้จักเมืองพัทยามากขึ้น ส่วนเดือนมีนาคมจะเข้าร่วมเปิดบูทในงานไอทีบี ที่ประเทศเยอรมนี”
นายอรรถพล กล่าวถึงแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศว่า จะกระตุ้นการเดินทางของกลุ่มผู้มีรถยนต์คันแรก และกลุ่มครอบครัวเพื่อต้อนรับเทศกาลปิดเทอม ด้วยการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ไซด์บี ที่จะชูจุดขายความสวยงามของทิวทัศน์ชายทะเลเมืองชล ที่นักท่องเที่ยวสามารถขับรถยนต์ผ่านเส้นทางเลียบชายทะเลบางทราย สาย “ชลมารควิถี” ภายใต้โครงการ “เที่ยวเมืองชล แสนสุข สนุกทุกเส้นทาง” แวะรับประทานอาหารทะเลสด และชื่นชมวิถีชีวิตชาวประมงบริเวณตลาดท่าเรือพลี ก่อนเข้าสู่ตลาดเก่า 100 ปีอ่างศิลา และไหว้พระตามศาลเจ้า
“ข่าวการทำร้าย และข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ทำให้ประเทศไทย และเมืองพัทยาเสื่อมเสียชื่อเสียง และภาพลักษณ์การเป็นเมืองท่องเที่ยวในดวงใจของชาวรัสเซีย ซึ่งแม้หน่วยงานต่างๆ จะพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัย แต่หากคนในพื้นที่ไม่ช่วยกันสอดส่องดูแล ก็เปรียบเสมือนเราทุบหม้อข้าวตัวเอง จึงขอวอนชาวพัทยา และชาวชลบุรี ให้ช่วยกันดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติร่วมกัน”
