ฉะเชิงเทรา -ประชาชนแห่ทิ้งเมืองกรุงทะลักไหลออก มุ่งกลับบ้านด้านประตูทิศตะวันออกแน่นตลอดทั้งคืน ขณะการจราจรในภาพรวมลื่นไหล แต่ชะงักช่วงใกล้แยกสัญญาณไฟจราจรบริเวณเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดมุ่งหน้าไปสู่ทางภาคอีสาน
วันนี้ (29 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครสู่พื้นที่ต่างจังหวัดของประชาชนด้านทิศตะวันออกของเมืองหลวง
ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โดยมีรถยนต์สัญจรผ่านพื้นที่อย่างเนืองแน่น แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้มีการวางแผนในการจัดการด้านจราจรที่ดีขึ้นกว่าเก่าต่างจากในปีก่อนๆ ประกอบกับประชาชนยังสามารถใช้เส้นทางหลบเลี่ยงบนด่วนบูรพาวิถีฟรีได้ด้วย จึงทำให้การจราจรไม่คับคั่งมากนัก
สำหรับการจราจรด้านฝั่งขาออกในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเส้นทางผ่าน หรือประตูเข้า-ออกของกรุงเทพฯ ด้านทิศตะวันออก ที่มีถนนสายหลัก และสายรองหลายเส้นทางเชื่อมผ่านพื้นที่นั้น มีประชนชนเริ่มทยอยเดินทางออกจากตัวเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โดยมีรถเข้ามาใช้เส้นทางเป็นจำนวนมากเพื่อมุ่งหน้าไปสู่จังหวัดทางภาคอีสาน และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบนถนนสาย314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง (สิริโสธร) นั้น มีรถมากกว่าถนนทุกสาย เนื่องจากเป็นเส้นทางรวมรถที่แยกการเชื่อมต่อออกมาจากทั้งถนนสายบางนา-ตราด
ส่วนทางยกระดับบูรพาวิถี ถนนทางหลวงสาย 7 มอเตอร์เวย์ (กรุงเทพฯ-พัทยา) ถนนสุขุมวิทสายเก่า ถนนสายสุวินทวงศ์ (304) ที่มาบรรจบชนกันที่บริเวณทางสามแยกบางพระนั้น จึงทำให้มีรถคับคั่งเต็มเส้นทาง และมีรถหยุดชะลอตัวเป็นแถวยาวอยู่เป็นระยะตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณใกล้ทางแยกสัญญาณไฟจราจร
ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เช่น สภ.แสนภูดาษ และ สภ.เมืองฉะเชิงเทรานั้น ได้มีการวางแผนในการจัดการจราจรที่ดีขึ้นกว่าในปีก่อนๆ มาก หลังเริ่มมีประสบการณ์จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่จนมีผู้คนเข้ามาใช้เส้นทางมากจนติดขัดเป็นอัมพาต ได้มีการเปิดให้สัญญาณไฟเขียวในแต่ละจุดของทางแยกด้านฝั่งขาออกนานขึ้นกว่าเก่าเป็นพิเศษ และให้สัญญาณไฟจราจรในแต่ละจุดทางแยกนั้นมีความสัมพันธ์กัน เพื่อให้เกิดการลื่นไหลไม่หยุดชะงักของรถที่เข้ามาใช้เส้นทาง สามารถเคลื่อนผ่านไปได้ด้วยดี และสะดวกมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนท้ายกันเรียงเป็นแถว ในบริเวณใกล้ทางแยกสัญญาณไฟ สาเหตุส่วนใหญ่นั้นเป็นเพราะรถคันหลังมองไม่เห็นรถคันหน้าที่จอดติดรอสัญญาณไฟจราจรอยู่ในบริเวณทางแยก จึงทำให้ในปีนี้ อุบัติเหตุของการพุ่งชนกันแบบเป็นแถวยาวยังไม่เกิดขึ้น และมีอุบัติเหตุแบบรายย่อย หรือรายต่อรายลดน้อยลงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีรถยนต์กระจุกรวมตัวกันอยู่ในเส้นทางอยู่เป็นระยะ ในจุดใกล้กับบริเวณทางแยกใหญ่ตามรายทางในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา อีกหลายจุด เช่น ที่บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟบางคล้า และสี่แยกสัญญาณไฟพนมสารคาม บนถนนสาย 304 ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังภาคอีสานนั้นมีรถสะสมเต็มถนนอยู่มากแต่เป็นเส้นทางสายยาว จึงไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนท้ายกัน และรถสามารถเคลื่อนผ่านไปได้ด้วยดีเป็นระลอกใหญ่เมื่อได้รับสัญญาณไฟเขียว
นอกจากนี้ ยังคงมีปัญหาการติดขัดอย่างเนืองแน่นของรถยนต์ผู้ใช้เส้นทางอยู่บ้างในบริเวณรอยต่อระหว่างพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี ที่มีรถสะสมอยู่มากในเส้นทางบริเวณรอยต่อระหว่างกัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบพื้นที่นั้นไม่ได้มีการประสานงานในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน เพื่อช่วยให้การจราจรลื่นไหลเป็นรูปแบบต่อเนื่องสัมพันธ์กัน จึงทำให้เกิดปัญหามีรถสะสมตัวในเส้นทางอย่างมากตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้
ส่วนเส้นทางสายอื่นๆ นั้น ทั้งบางนา-ตราด สุขุมวิทสายเก่า และสุวินทวงศ์ด้านขาออกมีนบุรีนั้น การจราจรในภาพรวมนั้นคล่องตัวเนื่องจากประชาชนไม่นิยมใช้เส้นทาง ขณะเดียวกัน ประชาชนยังมีช่องทางเลือกในการเดินทางด้วยการหันไปใช้เส้นทางยกระดับลอยฟ้าบนทางด่วนบูรพาวิถี ที่ได้มีการเปิดให้ประชาชนใช้ฟรีในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งได้รับความสะดวกมากกว่า และสามารถแบ่งเบารถบนถนนสายบางนา-ตราดลงไปได้อย่างมาก