การ์ดดูแลร้านอาหารยิงลูกเขยนายกเล็กตะเคียนเตี้ยเสียชีวิตเข้ามอบตัวแล้ว

ศูนย์ข่าวศรีราชา - การ์ดดูแลร้านอาหาร ยิงลูกเขยนายกเล็กเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย เสียชีวิตคาร้านอาหาร เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมยอมรับใช้อาวุธปืนยิงจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาฆ่า เพียงป้องกันตัวเองเท่านั้น

จากกรณีเกิดเหตุการณ์ยิงกันในร้านแชร์ ร้านอาหารชื่อดังของอ่าวอุดม ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ทำให้ นายสุประวัติ หรืออ๊อด เผือกทอง อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกเขยของนายมานพ ประกอบธรรม นายกเทศมนตรีตำบลตะเคียนเตี้ย เสียชีวิตคาร้านอาหารพร้อมพวกบาดเจ็บอีก 2 คน เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยในวันนี้ ผู้ต้องหา ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายฉัตรชัย หรือบี้ วาระดี อายุ 32 ปี ได้เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพนิช ผกก.สภ.แหลมฉบัง พร้อมปืนพกสั้นยี่ห้อซีแซด แบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุแล้ว

นายฉัตรชัย วาระดี ได้ยอมรับว่า ได้ใช้อาวุธปืนของกลางยิงผู้ตายกับพวกในที่เกิดเหตุจริง ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันตนเองที่ถูกพวกผู้ตายรุมทำร้ายร่างกาย ไม่ได้มีเจตนาฆ่าแต่อย่างใด

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพนิช ผกก.สภ.แหลมฉบัง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 คน พา นายฉัตรชัยหรือบี้ วาระดี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางญาติผู้เสียชีวิต และประชาชนที่ทราบข่าวมาดูการทำแผนในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

การทำแผน เริ่มจากนายฉัตรชัย ที่มารับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้านนี้ยืนอยู่หน้าร้านแล้วเกิดเขม่นกับกลุ่มผู้ตายที่มานั่งรับประทานอาหารในร้าน เนื่องจากนายฉัตรชัยเคยมีเรื่องกันกับนายสุชาติ หรือเบิร์ด แขกเณร มาก่อน ก่อนที่จะมาพบกันอีกครั้ง จึงเกิดเขม่นกันขึ้น แล้วมีการพูดจาแซวกันจนเกือบจะมีเรื่องกันที่หน้าร้าน แต่ มีคนช่วยห้ามไว้

หลังจากนั้น ก็ได้มีคนกลางให้ไปเคลียร์ปัญหากันในห้องน้ำ จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน กลุ่มเพื่อนผู้ตาย รวมทั้งผู้ตายจึงเข้าไปช่วย เป็นเหตุให้ นายฉัตรชัย ใช้อาวุธปืนที่พกพามายิงขึ้นฟ้า ก่อนยิงกราดไปที่กลุ่มผู้บาดเจ็บ และผู้ตาย จนเป็นเหตุให้ นายสุประวัติ หรืออ๊อด เผือกทอง ถูกยิงเสียชีวิต ส่วนนายวิทยา หรือแป๊ะ รักไทย อายุ 26 ปี และนายสุชาติ หรือเบิร์ด แขกเณร อายุ 32 ปี บาดเจ็บสาหัส จากนั้น นายฉัตรชัยได้หลบหนีไป และตัดสินใจเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา

หลังจากการทำแผนเสร็จ กลุ่มเพื่อน และญาติผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บได้ฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ เพื่อจะเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ออกไปในทันที ก่อนจะเกิดเหตุการณ์บานปลาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาเบื้องต้นแก่ นายฉัตรชัย หรือบี้ วาระดี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนโดยใช่เหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป