ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โจ๋โคราชชาย-หญิง อายุ 13-17 ปี โหด ยกพวกรุมทำร้ายวัยรุ่นคู่อริเจ็บปางตายสมองบวม ไม่รู้สึกตัว เหตุเขม่นกันในสถานบันเทิง ถูกตั้งข้อหาหนักพยายามฆ่าผู้อื่น ส่วนอีกรายขับรถ จยย.ประกบรถคู่อริก่อนถีบรถเสียหลักชนท่อประปาดับเพลิงข้างทางตาย 1 เจ็บ 1 ด้านตำรวจ วอนผู้ปกครองดูแลเอาใจใส่บุตรหลานให้มาก
วันนี้ ( 27 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.กรกต สาริยา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พ.ต.อ. ชัยเดช ปานรักษา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และ พ.ต.ท.ภูมิ ทองโพธิ์ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมกลุ่มเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ร่วมกันรุมทำร้ายร่างกายผู้อื่นอาการสาหัส ได้ผู้หารวม 6 คน
ประกอบด้วย นายหิรัณย์ หรือ มอส ไวยพุฒ อายุ 18 ปี, นายเปรี้ยว (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี, นายแอ๊ด (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ,นายตี๋ (นามสมมุต) อายุ 15 ปี , ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี , ด.ญ.บี(นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ทั้ง 2 ไม่ได้นำมาแถลงข่าวเนื่องจากส่งไปสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก จ.นครราชสีมาแล้ว พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ สตอเลี่ยน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 1 คัน ซึ่งขโมยมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 04.45 น. วันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายกันที่บริเวณแยกบ้านโพธิ์ ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายสมชาย หรือก็อต เหรียญทอง อายุ18 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองบวม ขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว และ นายชิดณรงค์ หรือ แน็พ ประเสริฐกลาง อายุ 18 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า บาดแผลถูกของมีคม ซึ่งก่อนเกิดเหตุสืบทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นได้มีการทะเลาะวิวาทกันมาก่อนและได้ติดตามไปทำร้ายกันที่จุดเกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาข่าวจากบุคคลในที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิด จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด
ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันรุมทำร้ายผู้บาดเจ็บจริง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า พยายามฆ่าผู้อื่น ส่วนนายเปรี้ยว ยอมรับว่า รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ สตอเลี่ยน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้ร่วมกับนายหมู ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ลักมากจากหน้าหอพักมาลินี ชุมชนมหาชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2555 เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ไว้ตรวจสอบพบเป็นรถที่ลักไปจริงและผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ว่า ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ส่วนอีกคดีเจ้าหน้าที่จับกุม ด.ช.ฟิช (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ก่อเหตุทำร้าย นายพีระมณฑ์ ทวีแก้ว และนายเกีรยติศักดิ์ มุ้ยแก้ว โดยขับรถตามประกบรถจักรยานยนต์ของนายพีระมณฑ์ จากนั้นได้ใช้เท้าถีบรถที่มี นายพีระมณฑ์ เป็นคนขับ ที่บริเวณแยก อบจ.นครราชสีมา ทำให้รถของนายพีระมณฑ์ เสียหลักชนกับท่อประปาดับเพลิง เป็นเหตุให้นายพีระมณฑ์ และนายเกียรติศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บ และนายพีระมณฑ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา สาเหตุเนื่องจากเคยทะเลาะวิวาทกันมาก่อนวันเกิดเหตุ
พล.ต.ต.กรกต สาริยา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า ปัจจุบันพบการกระทำผิดเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสนใจแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองต้องเอาใจใส่ดูแลบุตรหลานให้มากขึ้น เนื่องจากเยาวชนมักรวมกลุ่มกันไปเที่ยวตามสถานบันเทิง และหลังจากสถานบันเทิงปิดจะรวมตัวกันขับรถจักรยานยนต์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ เมื่อพบวัยรุ่นกลุ่มอื่นๆ หรือคู่อริที่เคยทะเลาะวิวาทกันก็จะยกพวกก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ อาจนำมาซึ่งการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนทั่วไป