ตร.เมืองแปดริ้วจับโจรวิตถารไล่ถีบรถเหยื่อสาวตีซ้ำด้วยกระบองก่อนข่มขืน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจเมืองแปดริ้วรวบโจรจิตวิตถารรสนิยมชอบเล่นเซ็กซ์โฟน และยังก่อเหตุไล่ถีบรถเหยื่อสาวก่อนหวดซ้ำด้วยกระบองจนสลบก่อนลงมือข่มขืน พร้อมชิงทรัพย์สินเหยื่อติดมือ เผยก่อเหตุแล้วโชกโชน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (16 พ.ย.) พล.ต.ต.สมบัติ บัวเรือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.อ.วินัย จิตต์ปรุง รองผู้บังคับการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคล้า นำโดย พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ ผู้กำกับ สภ.บางคล้า พ.ต.ท.ชนินทร์ เดชชีวะ รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวน และกำลังฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันนำตัวนายสมปอง ทองอ่วม อายุ 24 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 1 ตำบลสิบเอ็ดศอก อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีอาชีพช่างทาสี ผู้ต้องหาในคดีชิงทรัพย์ และข่มขืน และก่อเหตุมาแล้วหลายท้องที่ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่บริเวณด้านหน้ากองบังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา

พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม เพราะเคยก่อเหตุมาแล้วหลายท้องที่ และเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา คนร้ายรายนี้ได้ใช้เชือกรัดคอผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาวภายในห้องน้ำปั้มน้ำมัน ปตท.(เจ็ทเดิม) บางไผ่ ในท้องที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ได้ทรัพย์สินไปเป็นโทรศัพท์มือถือโนเกีย 1 เครื่อง และขณะก่อเหตุได้ใช้รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน กลก 56 ปราจีนบุรี เป็นยานพาหนะในการหลบหนีไป

ต่อมา ในช่วงกลางเดือนกันยายน 2555 คนร้ายรายเดิมยังได้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ตามประกบเหยื่อสาว และพยายามถีบรถของผู้เสียหายให้ล้มลง แต่ขณะก่อเหตุรถเป้าหมายไม่ล้ม จึงใช้ไม้กระบองตีซ้ำจนสลบ ก่อนชิงทรัพย์เป็นเงินจำนวน 300 บาท และขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีฟ้าขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป เหตุเกิดที่บริเวณถนนเลียบคลองส่งน้ำ ตำบลดอนทราย อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา

จากนั้น ในวันที่ 26 กันยายน 2555 ยังก่อเหตุชิงทรัพย์ น.ส.วิภาดา สนเขียว อายุ 23 ปี โดยใช้วิธีขี่รถตามประกบ และพยายามถีบรถของผู้เสียหายให้ล้มก่อนใช้ท่อนไม้หวดตีซ้ำจนเหยื่อสลบ จากนั้นได้ชิงทรัพย์จากเหยื่อเป็นเงินสด จำนวน 400 บาท โทรศัพท์มือถือมาสเตอร์ 1 เครื่อง กระเป๋าใส่เงิน 1 ใบ โดยใช้รถจักรยานยนต์สกู๊ปปี้ไอ สีฟ้าขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขี่หลบหนี เหตุเกิดในท้องที่หมู่.2 ตำบลสนามจันทร์ อำเภอบ้านโพธิ์

และในช่วงปลายเดือนกันยายน 2555 คนร้ายรายเดียวกันนี้ได้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบหญิงสาวที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ในช่วกลางดึก ก่อนใช้เท้าถีบให้ล้ม และลงมือข่มขืน พร้อมชิงเอาทรัพย์เป็นเงินสด 5,000 บาท โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกูปปี้ไอ สีฟ้า-ขาว เป็นยานพาหนะในการหลบหนี เหตุเกิดบริเวณถนนหน้าวัดเนินหลังเต่า ตำบลบ้านช้าง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี

ส่วนในวันที่ 4 ตุลาคม 2555 ได้ก่อเหตุซ้ำอย่างต่อเนื่องในวันเดียวกัน โดยได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีฟ้า-ขาว ตามประกบ และถีบรถของผู้เสียหายจนล้ม ในเขตตำบลคลองนา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ก่อนชิงสมุดบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายพร้อมบัตรประจำตัวประชาชน ไปเบิกเงินสดจากธนาคารกรุงไทย สาขา ถนนศุขประยูร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ได้เงินไปจำนวน 5,000 บาท

จากนั้น คนร้ายยังได้เดินทางไปก่อเหตุพยายามชิงทรัพย์ในอำเภอบางคล้า บนถนนสายบางคล้า-แปลงยาว เขตพื้นที่ หมู่ 4 ตำบลท่าทองหลาง ด้วยการขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ และถีบรถผู้เสียหายให้ล้มลงเพื่อบังคับเอาทรัพย์สิน แต่ผู้เสียหายไม่มีทรัพย์สิน จึงถูกข่มขืนในป่าข้างทาง

ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวของคนร้ายราย ถือว่าเป็นภัยต่อสังคม และมักเลือกเวลาก่อเหตุในช่วงหลังเที่ยงคืน โดยจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนหาเหยื่อที่เป็นหญิงสาวที่ขี่รถมาเพียงลำพัง ก่อนลงมือถีบรถให้ล้ม และใช้กระบองตีซ้ำก่อนชิงเอาทรัพย์สิน และหากพบผู้เสียหายมีหน้าตาดีก็จะบังคับข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อ

ขณะที่ พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรบางคล้า กล่าวถึงการติดตามสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ว่า เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์ชอบเล่นเซ็กซ์โฟน ซึ่งจะนำโทรศัพท์ที่ชิงมาได้ไปค้นหาเบอร์โทรศัพท์ที่พบภายในเครื่อง และใช้ซิมการ์ดต่างๆ ที่ผู้ต้องหามีอยู่นับ 10 ใบ โทร.เข้าไปยังเบอร์ต่างๆ ที่พบอยู่ในเครื่อง และเมื่อพบว่าเบอร์โทร.ใดปลายสายเป็นหญิงสาวเสียงสวยถูกใจ ก็จะขอพูดจาในลักษณะเซ็กซ์โฟนด้วย

โดยเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยจากการใช้โทรศัพท์ จนพบว่าผู้ต้องหาได้เล่นเซ็กซ์โฟนอยู่กับพี่สาวของเหยื่อรายหนึ่งที่คนร้ายได้หมายเลขโทรศัพท์จากภายในเครื่อง เจ้าหน้าที่จึงให้พี่สาวของเหยื่อรายนี้ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านเล่นเซ็กซ์โฟนด้วยอย่างต่อเนื่อง ก่อนนัดแนะกันมีความสัมพันธ์ กระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

ซึ่งผู้ต้องหารสารภาพว่า ก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง และข่มขืนเหยื่อมาแล้ว 2 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้แจ้งมายังผู้เสียหายที่เคยถูกคนร้ายรายนี้ก่อเหตุให้มาดูตัว และแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดเพิ่มเติม ที่สถานีตำรวจภูธรบางคล้า หรือตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา

สำหรับผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับในคดีเสพยาบ้า และเคยถูกนำตัวไปผ่านกระบวนการบำบัด และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาพยายามชิงทรัพย์ผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตราย และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น