เชียงใหม่ - ป้องกันจังหวัดนำทีมเจ้าหน้าที่บุกตัดไร่ฝิ่นกลางป่าแม่แจ่ม พบลงกล้าแล้ว 5 แปลง แต่ไร้เงาผู้ต้องหา เผยปีนี้มีคนลอบปลูกฝิ่นกันมาก เหตุอากาศเหมาะสม ราคาพุ่ง ขณะที่จับกุมพร้อมตัดทำลายได้เพียง 5-10% เท่านั้น
วันนี้ (26 ธ.ค.) นายบุญเกื้อ คุณาธารกุล ป้องกันจังหวัดเชียงใหม่ นายสรธร สันทัด นายอำเภอแม่แจ่ม นายธนู ครั่งเนียม ปลัดอำเภอแม่แจ่ม ทำหน้าที่ผู้ช่วยป้องกันจังหวัด พร้อมกำลังอาสมัครอำเภอแม่แจ่ม เข้าตัดทำลายไร่ฝิ่น 2 ไร่ ในป่าบ้านแม่สะต๊อบ หมู่ 3 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม เบื้องต้นไม่พบผู้กระทำผิด
ทั้งนี้ ปฏิบัติการตัดทำลายไร่ฝิ่นเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากศูนย์ข่าวยาเสพติด ฝ่ายข่าวกองทัพบก (พื้นที่เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน) จึงใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อลัดเลาะไปตามเส้นทางภูเขา ก่อนเดินเท้าต่อไปถึงบ้านแม่สะต๊อบ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นภูเขาสูงชันรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ เมื่อไปถึงพบการลักลอบปลูกฝิ่น 5 แปลง เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ 300 ตารางวา โดยแปลงที่ 1 เนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ต้นฝิ่นมีสภาพไม่สมบูรณ์ แต่กรีดไปแล้วบางส่วน แปลงที่ 2 เนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ต้นกล้าฝิ่นสูงประมาณ 2 นิ้ว สภาพสมบูรณ์ แปลงที่ 3 เนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ต้นกล้าฝิ่นกำลังงอก 2 ใบ สภาพสมบูรณ์ดี แปลงที่ 4 เนื้อที่ประมาณ 300 ตารางวา ต้นกล้าฝิ่นเล็ก สูงประมาณ 2 นิ้ว แปลงที่ 5 เนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ต้นกล้าฝิ่นเล็ก สูงประมาณ 2 นิ้ว สภาพสมบูรณ์ ไม่พบผู้ใดอยู่ในพื้นที่
เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดต้นฝิ่นไว้เป็นของกลางบางส่วน และร่วมกันถอนต้นฝิ่นที่เหลือแล้วมากองรวมกันเพื่อเผาทำลายพร้อมถ่ายภาพไว้ ก่อนทำบันทึกตรวจยึดเป็นหลักฐาน พร้อมนำต้นฝิ่นของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม เพื่อสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
นายบุญเกื้อกล่าวว่า ปีนี้อากาศหนาวเย็นเร็ว จึงเอื้ออำนวยต่อการปลูกฝิ่น ประกอบกับราคาฝิ่นดิบสูงขึ้น เนื่องจากมีการกวดขันจับกุม โดยราคาฝิ่นดิบ 1 จ้อย คือ 1.6 กิโลกรัม ราคา 1.5-1.7 แสนบาท ทำให้มีคนลักลอบปลูกกันมาก ซึ่งที่ผ่านมาในจ.เชียงใหม่ สามารถจับกุมและทำลายได้เพียง 5-10% เท่านั้น โดยยังมีการลักลอบปลูกแปลงใหญ่อีกหลายแห่ง
“เป็นที่น่าเสียดายว่าส่วนใหญ่จะไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ เพราะปลูกอยูในป่าและภูเขา คนที่ลักลอบปลูกฝิ่นส่วนใหญ่ก็รับจ้างจากกลุ่มนายทุน เนื่องจากรายได้ดีกว่าการปลูกพืชเศรษฐกิจทั่วไป และยังเป็นคนในพื้นที่ จึงรู้ช่องทางหลบหนีดี”