ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชเตรียมพร้อมรับมือชาวอีสานทะลักกลับบ้านเทศกาลปีใหม่ วางมาตรการคุมเข้มการจราจร คาดปีนี้นโยบาย “รถคันแรก” ของรัฐบาลพ่นพิษปริมาณรถพุ่งทำจราจรหนาแน่นติดหนึบ เตรียมเปิดช่องทางพิเศษและปรับจุดบริการ-จุดตรวจกว่า 150 แห่งไม่ให้กีดขวางเส้นทาง เผยตั้งเป้าลดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตช่วง 7 วันอันตรายเป็น “ศูนย์”
วันนี้ (20 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมวีวัน จ.นครราชสีมา นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งนายอำเภอ ทหาร ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชุมเตรียมความพร้อมการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 โดยปีนี้มีเป้าหมายลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บให้ลดลงมากที่สุด หรือเท่ากับ “ศูนย์” และกำหนดระยะปฏิบัติการเข้มข้นตั้งแต่ 27 ธ.ค. 2555-2 ม.ค. 2556
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การปฏิบัติงานด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดนครราชสีมา กับส่วนราชการ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรเอกชนทุกแห่งใน จ.นครราชสีมา เพื่อให้ทุกองค์กรมีส่วนร่วมในการลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในพื้นที่ให้ต่ำกว่า 10 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคนในปี 2563
โดยมีขอบเขตการดำเนินงานร่วมกันคือ ควบคุมดูแลไม่ให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่กระทำผิดกฎและวินัยจราจรเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี, จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์รณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% ติดตั้ง ณ ส่วนราชการ, จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ การปลุกจิตสำนึกวินัยจราจรโดยใช้ถ้อยคำที่เหมาะสมในเชิงสร้างสรรค์ และสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง
นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดฯ ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 จ.นครราชสีมา ขึ้นที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) พร้อมทั้งมีการซักซ้อมทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่จะร่วมกันอำนวยความสะดวกการเดินทางแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น แขวงการทาง โรงพยาบาลต่างๆ โดยวันที่ 26 ธ.ค.นี้ซึ่งตรงกับวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ จะทำการเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 จ.นครราชสีมาอย่างเป็นทางการ จากนั้นทุกฝ่ายจะลงพื้นที่ปฏิบัติการเข้มข้น พร้อมรายงานสถานการณ์ตลอด 24 ชม.
ทั้งนี้ การดำเนินงานแบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลัก คือ ช่วงเตรียมความพร้อม 1-26 ธ.ค. 2555 และช่วงปฏิบัติการเข้มข้นตั้งแต่ 27 ธ.ค. 2555-2 ม.ค. 2556 ภายใต้การรณรงค์ “ก้าวสู่ปีใหม่อย่างปลอดภัย ชาวโคราชร่วมใจลดอุบัติเหตุ” และเน้นเป็นพิเศษในช่วง 2 วันแรกของการเดินทางมา คือ 27-28 ธ.ค. 2555 เป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางในเส้นทางหลวงระหว่างจังหวัด และในช่วง 2 วันหลังของการเดินทางกลับคือ 1-2 ม.ค. 2555
ส่วนช่วงวันเฉลิมฉลองปีใหม่ให้ใช้มาตรการควบคุมทางสังคมในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน โดยปีนี้มีการปรับจุดตรวจจุดบริการที่มีกว่า 152 จุด ตลอดเส้นทางถนนสายหลักและสายรองให้มีความเหมาะสม ไม่ให้กีดขวางการเดินทางเพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้ โดยจะประเมินสถานการณ์ทุกวัน และตั้งเป้าจำนวนการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตในปีใหม่นี้ต้องเป็น “0” (ศูนย์) หรือให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
นายวินัยกล่าวอีกว่า สำหรับรถยนต์กระบะที่บรรทุกผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหมู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้มงวดดูแลเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และควรวางแผนในการเดินทางให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณรถยนต์ใช้เส้นทางสัญจรในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นจำนวนมากจากนโยบายคืนภาษีสรรพสามิตรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ทางจังหวัดฯ ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการรองรับเพื่อเปิดเส้นทางพิเศษไว้แล้วหากมีการจราจรหนาแน่น โดยเฉพาะถนนมิตรภาพ ช่วงทางขึ้นเขา ตั้งแต่ อ.ปากช่อง ยาวต่อเนื่องจนถึง ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ส่วนรถโดยสารประจำทางได้ให้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ คนขับรถโดยสารสาธารณะต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด และมีคนขับมาสับเปลี่ยนทุก 8 ชม.เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร พร้อมเสริมเที่ยวรถเพิ่มจากปกติไว้กว่า 120 เที่ยว ในเส้นทางกรุงเทพฯ-โคราชเพื่อให้เพียงพอต่อการบริการประชาชน
“ขอให้ประชาชนฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุข ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง อย่าตั้งอยู่บนความประมาท และขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตามจุดบริการต่างๆ และค่อยมาค่อยไป สุดท้ายจะถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย” นายวินัยกล่าว