พระนครศรีอยุธยา - กรมการค้าระหว่างประเทศ จัดงานสัมมนา “FTA:แต้มต่อสินค้าไทยในอาเซียน ญี่ปุ่น และเปรู” เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางการค้าในเขตการค้าเสรีในกลุ่มอาเซียน
วันนี้ (19 ธ.ค.) กรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดการสัมมนา เรื่อง “FTA:แต้มต่อสินค้าไทยในอาเซียน ญี่ปุ่น และเปรู” ขึ้น ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายวันชัย วราวิทย์ ผู้อำนวยการกองสิทธิประโยชน์ทางการค้า เป็นประธานในการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้
นายวันชัย วราวิทย์ ผู้อำนวยการกองสิทธิประโยชน์ทางการค้า กล่าวว่า การจัดงานสัมมนาเรื่อง “FTA:แต้มต่อสินค้าไทยในอาเซียน ญี่ปุ่น และเปรู” จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเขตการค้าเสรี หรือ FTA สิทธิประโยชน์ทางการค้า และทราบถึงความเคลื่อนไหวด้านสิทธิพิเศษทางการค้าที่ประเทศไทยจะได้รับ ภายใต้ความตกลงของอาเซียน-ญี่ปุ่น และเขตการค้าเสรีไทย-เปรู ซึ่งทางจังหวัดพระนครศรรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรมที่สำคัญเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าส่งออกอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
อาเซียนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 10 ประเทศ มีประชากรรวมกันกว่า 580 ล้านคน อาเซียนจึงเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญอันดับ 1 ของไทย ซึ่งปัจจุบัน อาเซียนได้ลดภาษีนำเข้าระหว่างกันเป็นศูนย์แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 และมีเป้าหมายไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเป็นตลาด และฐานการผลิตเดียว โดยขณะนี้ อาเซียนได้จัดทำเขตการค้าเสรีกับประเทศนอกกลุ่ม และบรรลุการเจรจาแล้วกับประเทศคู่ค้า 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ ญี่ปุ่น
วันนี้ (19 ธ.ค.) กรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดการสัมมนา เรื่อง “FTA:แต้มต่อสินค้าไทยในอาเซียน ญี่ปุ่น และเปรู” ขึ้น ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายวันชัย วราวิทย์ ผู้อำนวยการกองสิทธิประโยชน์ทางการค้า เป็นประธานในการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้
นายวันชัย วราวิทย์ ผู้อำนวยการกองสิทธิประโยชน์ทางการค้า กล่าวว่า การจัดงานสัมมนาเรื่อง “FTA:แต้มต่อสินค้าไทยในอาเซียน ญี่ปุ่น และเปรู” จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเขตการค้าเสรี หรือ FTA สิทธิประโยชน์ทางการค้า และทราบถึงความเคลื่อนไหวด้านสิทธิพิเศษทางการค้าที่ประเทศไทยจะได้รับ ภายใต้ความตกลงของอาเซียน-ญี่ปุ่น และเขตการค้าเสรีไทย-เปรู ซึ่งทางจังหวัดพระนครศรรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรมที่สำคัญเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าส่งออกอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
อาเซียนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 10 ประเทศ มีประชากรรวมกันกว่า 580 ล้านคน อาเซียนจึงเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญอันดับ 1 ของไทย ซึ่งปัจจุบัน อาเซียนได้ลดภาษีนำเข้าระหว่างกันเป็นศูนย์แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 และมีเป้าหมายไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเป็นตลาด และฐานการผลิตเดียว โดยขณะนี้ อาเซียนได้จัดทำเขตการค้าเสรีกับประเทศนอกกลุ่ม และบรรลุการเจรจาแล้วกับประเทศคู่ค้า 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ ญี่ปุ่น