xs
xsm
sm
md
lg

“พ่อคูณ” อ่อนเพลียไม่ยอมลุกออกกำลังกาย - แพทย์หวั่นเกิดแผลกดทับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลวงพ่อคูณ   ปริสุทโธ   เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ พักรักษาอาการอาพาธด้วยภาวะปอดอักเสบ อยู่ที่รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดยังอ่อนเพลีย ไม่ยอมลุกขึ้นมาออกกำลังกายตามแพทย์แนะนำ วันนี้ ( 18 ธ.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “หลวงพ่อคูณ” ยังอ่อนเพลียไม่ยอมตื่นลุกขึ้นมาออกกำลังกายและปั่นจักรยานไฟฟ้า แพทย์เผยอาการทรงตัวไม่มีไข้ ยังมีเสมหะมาก และใส่สายสวนปัสสาวะอยู่ตลอดเวลา ชี้ต้องพยายามให้ทำกายบริหารเหตุกล้ามเนื้อทุกส่วนอ่อนแรงต้องได้รับการฟื้นฟู สั่งพยาบาลพลิกตัวทุก 2 ชม. ป้องกันเกิดแผลกดทับ

วันนี้ (18 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมโรคปอด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ที่รักษาอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจอาการครั้งล่าสุด โดยภาพรวมยังทรงตัว แต่หลวงพ่อคูณมีอาการอ่อนเพลีย และต้องการนอนจำวัดอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากในช่วงกลางคืนท่านไม่ยอมจำวัด ทำให้ตลอดทั้งวันนี้ไม่ยอมตื่นลุกขึ้นมาทำกายบริหารและปั่นจักรยานไฟฟ้า

ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะร่างกายท่านยังอ่อนแออยู่มาก คณะแพทย์และพยาบาลจะต้องคอยช่วยให้ท่านได้ขยับแขนขา เนื่องจากหลังจากที่ท่านเข้าพักรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลานานกว่าครึ่งเดือน ทำให้กล้ามเนื้อทุกส่วนหายไปทั้งหมด จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูเพื่อให้กล้ามเนื้อมีแรง

“โดยปกติของผู้สูงอายุมักตื่นนอนตอนกลางคืน และหลับตอนกลางวัน เช่นเดียวกันหลวงพ่อคูณ ที่อายุเกือบ 90 ปี ท่านจะตื่นตอน 4 ทุ่มถึงตี 4 และจะจำวัดอีกทีตอนเช้าต่อเนื่องถึงช่วงกลางวัน ฉะนั้นอาจเป็นอุปสรรคต่อการให้ท่านออกกำลังกายบ้าง แต่บางครั้งก็ต้องฝืน ซึ่งจะดูอีกครั้งว่าในจะให้หลวงพ่อออกกำลังกายและปั่นจักรยานไฟฟ้าในช่วงเย็นหรือไม่” นพ.อนุชิตกล่าว

สำหรับการรักษาขณะนี้ต้องยังพ่นยาขยายหลอดลม ทุก 6 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องพ่นทุก 2 ชั่วโมง และให้ยาละลายเสมหะเนื่องจากหลวงพ่อยังมีเสมหะมาก และยังคงใส่สายสวนปัสสาวะอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากการขับปัสสาวะของหลวงพ่อคูณยังไม่ดีเพราะผลข้างเคียงของการยาพ่น พร้อมกันนี้ได้ให้พยาบาลคอยพลิกตัวทุก 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ ขณะนี้ยังไม่พบภาวะแทรกซ้อนในอวัยวะอื่นๆ เกิดขึ้น และไม่ยังไม่มีไข้กลับมาแต่อย่างใด ส่วนการรับอาหารผ่านทางสายยางเข้าทางช่องท้องนั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี

“ตอนนี้อยู่ในช่วงการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายเพื่อให้แข็งแรงกลับมาให้ได้เหมือนก่อนเข้าโรงพยาบาล ซึ่งคาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เนื่องจากหลวงพ่อคูณท่านอายุมากจะทำแบบหักโหมเลยคงไม่ได้” นพ.อนุชิตกล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น