อุดรธานี - ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นจำคุกหัวโจกไพร่แดงอุดรฯ “ขวัญชัย” 2 ปี 8 เดือนโดยไม่รอลงอาญา พร้อมปรับกว่า 3.5 แสนพ่วงดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7.5 ตั้งแต่วันก่อเหตุ 24 ก.ค. 51 ในคดีพาพวกกลุ่มคนเสื้อแดงบุกทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่าพี่น้องพันธมิตรฯ ที่หนองประจักษ์จนเจ็บสาหัสและเสียทรัพย์ หลังฟังคำพิพากษายังไม่สำนึกยื่นหลักทรัพย์มูลค่ากว่า 5 แสนสู้ชั้นฎีกาต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ธ.ค.) เวลาประมาณ 10.30 น. ศาลจังหวัดอุดรธานีได้นัดฟังคำสั่งคดีอุทธรณ์นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร หลังจากก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกนายขวัญชัย 2 ปี 8 เดือน และปรับ 350,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุในข้อหาพยายามฆ่า ทำร้ายผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และทำให้เสียทรัพย์ จากกรณีนำกลุ่มมวลชนไปประท้วงต่อต้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 โดยคดีนี้มีนายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายขวัญชัย
โดยบรรยากาศที่ศาลจังหวัดอุดรธานีตั้งแต่เช้ามีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมาให้กำลังใจนายขวัญชัยจำนวนมาก และนายขวัญชัยได้กล่าวกับผู้มาให้กำลังใจอย่างมั่นใจว่าศาลอุทธรณ์จะยกฟ้องเพราะตนมีพยานและหลักฐานเพิ่มมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทั้งยังใช้ยืนยันได้ว่าตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม ต่อมาผู้พิพากษาได้ขึ้นบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีดำ หมายเลข 2149/2551 โดยยืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้น คือ จำคุก 2 ปี 8 เดือน ปรับเป็นเงิน 359,850 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ โดยหลังจากศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จแล้ว นายขวัญชัยได้ยื่นหลักทรัพย์มูลค่ากว่า 5 แสนบาทขอประกันตัวออกไปสู้คดีในชั้นศาลฎีกาต่อ
นายขวัญชัยเปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า เป็นไปอย่างที่ตนได้คาดการณ์ไว้ว่าคำพิพากษาจะยืนตามศาลชั้นต้น แต่เรายังมีสิทธิที่จะสู่ต่อในชั้นฎีกา ซึ่งก็คงจะทำความจริงให้ปรากฏ เท่าที่ตนได้รับฟังคำพิพากษาต้องยอมรับว่าฝ่ายโจทก์มีข้อมูลที่สอดคล้องกัน ซึ่งเป็นการสร้างภาพที่ดีเยี่ยม เราเองเสียเปรียบที่ทนายคนแรกที่ทำคดีได้เสียชีวิตลงจึงไม่มีหลักฐานมาต่อสู้ แต่ก็ยอมรับคำตัดสิน แต่เราจะต่อสู้ต่อไปตามสิทธิของเรา
ด้านนายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ โจทก์ยื่นฟ้อง กล่าวว่า บอกได้เลยว่าก่อนหน้านี้ตนไม่ได้คาดหวัง ไม่มีความมั่นใจกับความยุติธรรมที่จะได้รับ เพราะอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าการเมืองบ้านเรามีความผิดเพี้ยนไปมาก ไม่ว่าจะเป็นอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ เราไม่ค่อยที่จะคาดหวังตั้งความหวังกับสิ่งนั้นได้มากเท่าไร แต่อย่างน้อยวันนี้จากคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ก็ทำให้ตนเกิดความดีใจที่สถาบันตุลาการยังคงเป็นที่พึ่งได้อยู่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายงานพิเศษ : ย้อนรอย “ขวัญชัย” ปลุกระดมเสื้อแดงยกพวกบุกตีพันธมิตรอุดรฯ ที่หนองประจักษ์ฯ !!
