บุรีรัมย์ - นกอพยพหนีหนาวจากไซบีเรีย และนกหายากจากต่างถิ่น อพยพเข้ามาอาศัยหากิน และทำรังวางไข่ในเขตห้ามล่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน จ.บุรีรัมย์ ช่วงหน้าหนาวกว่า 2 หมื่นตัว คาดช่วงเทศกาลปีใหม่มีนักท่องเที่ยว และผู้นิยมดูนกมาเที่ยวชมนกอพยพ และนกหายากใกล้สูญพันธุ์ พร้อมสัมผัสอากาศหนาวคึกคัก
วันนี้ (16 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่เขตห้ามล่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวดูนกธรรมชาติ 1 ใน 5 แห่งของจังหวัดบุรีรัมย์ ขณะนี้ได้มีนกอพยพหนีหนาวจากไซบีเรีย นกหายากจากต่างถิ่น เช่น นกไองั้ว นกหางแหลม นกคูท นกเป็ดแดง นกอีโก้ง และนกปากห่าง อพยพเข้ามาอาศัยหากินทำรังวางไข่ภายในเขตห้ามล่าฯ เป็นจำนวนมาก
จากการสำรวจพบว่า ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ได้มีนกอพยพหนีหนาว นกต่างถิ่น และนกประจำถิ่น เข้ามาอาศัยหากิน และทำรังวางไข่ภายในเขตห้ามล่าฯ มากกว่า 200 ชนิด รวมจำนวนกว่า 20,000 ตัว และคาดว่าจะมีนกอพยพเข้ามาอีกอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
นอกจากนั้น องค์การสวนสัตว์นครราชสีมา ยังได้นำนกกระเรียนพันธุ์ไทย ซึ่งเป็นนกหายากที่เคยสูญพันธุ์ไปแล้วในอดีต มาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย เพื่อแพร่ขยายพันธุ์อีกด้วย
จึงเชิญชวนนักท่องเที่ยว และผู้นิยมดูนกได้เดินทางมาเที่ยวชมนก พร้อมสัมผัสธรรมชาติและอากาศที่หนาวเย็นในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ซึ่งเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้คอยดูแลอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งจัดเตรียมกล้อง และอุปกรณ์ส่องนกไว้คอยบริการผู้ที่มาเที่ยวชมฟรีด้วย
นายสุเทพ หวังคะพันธ์ ผู้ช่วยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย มีเนื้อที่กว่า 3,500 ไร่ จำนวนนี้แบ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำกว่า 1,600 ไร่ ซึ่งในช่วงหน้าหนาวของทุกปี จะมีนกอพยพเข้ามาอาศัยหากิน และทำรังวางไข่หลายหมื่นตัว และมีประชาชน นักท่องเที่ยว หรือผู้นิยมดูนกเดินทางเข้ามาเที่ยวชมไม่น้อยกว่าปีละ 20,000 คน ซึ่งคาดว่าช่วงเทศกาลปีใหม่นี้จะมีผู้มาเที่ยวชมหลายพันคน
“ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว และประชาชนที่อาศัยอยู่รอบพื้นที่เขตห้ามล่าฯ ได้ร่วมกันอนุรักษ์ ไม่ล่า ทำร้าย หรือกระทำการใดๆ ที่จะเป็นการรบกวนนกที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะนกที่กำลังทำรังวางไข่ หากพบผู้ใดฝ่าฝืนเข้าไปล่า หรือทำร้ายนกในเขตอนุรักษ์ก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที” นายสุเทพกล่าว