ตั้งด่านค้นทุกคัน หา “งาช้างพลายจันทร์" เชื่อคนลักตัดงาอยู่ใกล้ตัวเจ้าของ

ลำปาง - ตำรวจเร่งตรวจสอบหาเบาะแสคนร้ายฉีดยาซึมก่อนตัดงาพลายจันทร์ พร้อมตั้งด่านตรวจรถเข้า-ออกหมู่บ้านทุกคัน ย้ำคนร้ายต้องเคยคลุกคลีกับช้าง ขณะที่สัตวแพทย์เข้าตรวจช้างที่ถูกตัดงาซ้ำอีกครั้ง ระบุอาจจะซึมนาน 5-6 วัน

วันนี้ (12 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีช้างพลายจันทร์ อายุ 44 ปี ของนายธวัช เครือสาย ผู้ใหญ่บ้านบ้านวังตม ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ถูกคนร้ายวางยาซึมแล้วตัดเอางาข้างซ้ายที่เหลือเพียงข้างเดียวไป สร้างความเจ็บปวดแก่ช้างเป็นอย่างมาก อีกทั้งฤทธิ์ยายังทำให้ช้างตกอยู่ในอาการเซื่องซึม เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 10 ธันวาคม ว่า พ.ต.อ.พีระ เต็มแย้ม ผกก.สภ.แม่เมาะ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ได้เข้าพื้นที่หมู่บ้านวังตม ต.จางเหนือ เพื่อตรวจสอบสถานที่ และดูอาการของช้างพลายจันทร์อีกครั้งเมื่อบ่ายวันที่ 11 ธันวาคม

พ.ต.อ.พีระกล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่พบเบาะแสคนร้าย เนื่องจากเจ้าของช้างมาแจ้งความล่าช้า ประกอบกับหมู่บ้านนี้อยู่ห่างไกล เป็นหมู่บ้านสุดท้ายของอำเภอห่างจากตัวเมืองประมาณ 80 กิโลเมตร คนภายนอกเข้าหมู่บ้านได้สองทาง คือทางรถยนต์ ซึ่งคงมีคนในหมู่บ้านเห็นบ้าง และการเดินเท้าขึ้นทางภูเขาที่เชื่อมต่อ จ.แพร่ อย่างไรก็ตาม ได้ประสานพื้นที่ใกล้เคียงช่วยตรวจสอบแล้ว เนื่องจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบและค้างาช้างเป็นกลุ่มเล็กอยู่ในวงจำกัด คาดว่าจะสามารถติดตามได้ ส่วนถนนที่ออกจากหมู่บ้าน และออกจาก อ.แม่เมาะ ทางตำรวจได้ตั้งด่านตรวจรถทุกคันเพื่อหางาช้างที่อาจจะลักลอบออกนอกพื้นที่แล้ว

นายสรรพสิทธิ์ อินเขียวสาย อายุ 25 ปี บุตรชายนายธวัช กล่าวถึงอาการของช้างว่า ล่าสุดยังมีอาการซึม งวงยังตก กินอาหารได้น้อย ต้องให้น้ำและหยวกกล้วยตลอดเวลา

เย็นวานนี้ (11 ธ.ค.) น.สพ.ดร.สิทธิเดช มหาสาวังกูล หัวหน้าฝ่ายโรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง พร้อมด้วย น.สพ.ดร.บีจาเน่ เคลาเซ่น ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรสวัสดิภาพสัตว์ ประเทศเดนมาร์ก นายนรินทร์ วรรณมหินทร์ นายอำเภอแม่เมาะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง ได้เข้าตรวจอาการพลายจันทร์ พร้อมตรวจหาร่องรอยของบาดแผล โดยใช้ไมโลซิลทาที่บาดแผลเพื่อหารอยของวัสดุที่ใช้ตัดงาช้าง นอกจากนี้ยังได้เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำไปหาดีเอ็นเอเปรียบเทียบงาช้างที่คนร้ายลักลอบตัดไป หากตรวจพบจะได้ทราบว่าเป็นงาของพลายจันทร์หรือไม่

น.สพ.ดร.สิทธิเดชกล่าวภายหลังฉีดยากระตุ้นเมตาบอลิซึม เพื่อให้กระบวนการสร้างเซลล์ ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายของช้างทำงานได้ดีขึ้นว่า เนื่องจากช้างถูกวางยาซึม ทำให้ระบบย่อยอาหารและขับถ่ายมีปัญหาจนท้องอืดและอาจจะเสียชีวิตได้ และขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าคนร้ายให้ยาซึมไปมากน้อยแค่ไหน สัตวแพทย์จึงต้องให้ยาถอนไปก่อน ทั้งนี้ช้างอาจจะซึมนาน 5-6 วัน

นายนรินทร์กล่าวว่า ช้างในอำเภอแม่เมาะที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ปัจจุบันมี 15 เชือก ซึ่งรวมถึงพลายจันทร์ด้วย เหตุลักลอบตัดงาช้างในครั้งนี้ถือว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี สำหรับกลุ่มคนร้ายคาดว่าน่าจะอยู่ในพื้นที่เพราะต้องทราบความเคลื่อนไหวของเจ้าของช้างที่นำพลายจันทร์เข้าไปเลี้ยงไว้ในป่าแห่งนี้เป็นประจำ และคนร้ายน่าจะเคยคลุกคลีกับช้าง และน่าจะมีมากกว่า 3 คน โดยก่อนทำการตัดงาคนร้ายได้ล่อให้ช้างวิ่งวนต้นไม้เพื่อให้โซ่ที่ล่ามเท้าหดตัวให้สั้นลง หลังจากนั้นเมื่อช้างเข้าใกล้ต้นไม้คนร้ายได้ผูกช้างตรึงกับต้นไม้ ก่อนที่จะฉีดยาซึมสองเข็ม และเลื่อยงาช้างออกไปดังกล่าว ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญในการตัดโดยที่ไม่ทำให้ช้างล้มตายด้วย

อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :

1.แจ้ง ตร.ตามจับคนบาป-วางยาลักตัดงาช้าง เผยราคาตลาดมืดซื้อขายร่วมล้าน
2.คนบาป! วางยาช้าง-ตัดงาหนัก 20 กก.ทั้งที่เหลือเพียงข้างเดียว