พระนครศรีอยุธยา - เกิดเหตุไฟไหม้กุฏิพระวัดใหญ่ชัยมงคล เมืองพระนครศรีอยุธยา พบเพลิงลุกไหม้กุฏิเสียหายไป 3 หลัง รถยนต์กระบะเสียหาย 1 คัน ตู้เอทีเอ็ม 2 ตู้ เสียหายบางส่วน เบื้องต้นคาดวอด 10 ล้านบาท ตำรวจคาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (11 ธ.ค.) พ.ต.ท.จักรพันธ์ ธูปเตมีย์ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิพระภายในวัดใหญ่ชัยมงคล ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชัยยะ เพ็ชรปัญญา ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยรถดับเพลิงจากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เทศบาลเมืองอโยธยา จำนวนกว่า 10 คัน
พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้กุฏิไม้สักทรงไทยสองชั้นอยู่ริมทางเข้าวัดอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม เนื่องจากมีกุฏิติดกันหลายสิบหลัง ใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิง
ตรวจสอบพบเพลิงลุกไหม้กุฏิเสียหายไป จำนวน 3 หลัง รถยนต์กระบะเสียหาย 1 คัน ตู้เอทีเอ็ม จำนวน 2 ตู้ เสียหายบางส่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมดูแลเอาไว้
พระเพรียว ปัญญธโร อายุ 70 ปี พระลูกวัด กล่าวว่า ขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่บนชั้นบนของกุฏิ รู้สึกร้อนมากแล้วมีเสียงดังจึงรีบลุกขึ้นมาพบว่า เพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ที่ปลายเท้าจึงรีบฝ่ากองเพลิงหนีเอาชีวิตรอดออกมา มีเพียงอังสะกับสบงติดตัวมาเท่านั้น จีวร และข้าวของในกุฏิไม่ได้เอาออกมาเลย ไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร
พระมาบรรณ ปัญญาธโร อายุ 40 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล เปิดเผยว่า ต้นเพลิงเกิดจากกุฏิพระเพรียวมีเสียงดังเกิดขึ้นแล้วไฟลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นกุฏิทรงไทยไม้สักทั้งหลังเพลิงได้ลุกลามต่อเนื่องไปอีกสองหลัง สำหรับกุฏิทรงไทยสร้างเสร็จเมื่อปี 2552 ราคาหลังละ 2.5 ล้านบาท รวม 3 หลังที่ถูกไฟไหม้ไปคิดเป็นมูลค่ารวมทรัพย์สินด้วยเกือบ 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบความชัดเจนอีกครั้ง
สำหรับวัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้สร้างเจดีย์ชัยมงคล หลังจากได้รับชัยชนะสงครามจนถึงทุกวันนี้ได้มีการบูรณะจนเป็นวัดที่มีประชาชน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ และชาวไทยเดินทางเข้ามาที่วัดนี้เป็นจำนวนมาก คงจะต้องรีบบูรณะเพราะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะผ่านเข้าออก
พ.ต.อ.ชัยยะ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดและสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์รวมทั้งพระที่อาศัยอยู่ในกุฏิต้นเพลิงเพื่อหาสาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไหม้อีกครั้ง เบื้องต้น น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร