กาฬสินธุ์ - จับได้แล้ว ฆาตกรฆ่าข่มขืนเผานักเรียนหญิง ม.4 อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังตำรวจปูพรมล่านานกว่า 1 สัปดาห์ พบประวัติเคยก่อเหตุ และถูกจำคุกคดีข่มขืนมาแล้ว สารภาพเมายาบ้า เห็นเหยื่อใส่ชุดนักเรียนเกิดอารมณ์ฉุดเข้าป่าขืนใจ แต่เหยื่อไม่ยอมจึงกระทืบหลายครั้งแล้วบีบคอ ข่มขืนจนตาย ก่อนราดน้ำมันจุดไฟเผา ขณะที่ตำรวจยกเลิกทำแผน หวั่นถูกรุมประชาทัณฑ์
วันนี้ (10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ชำนาญ เครือบัว ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง แถลงจับกุมผู้ต้องหาฆ่าโหด น.ส.กรรณิกา วิศรียา อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบัวขาว อำเภอกุฉินารายณ์ ซึ่งถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมด้วยการข่มขืน และฆ่า จากนั้นได้ใช้น้ำมันเผาเพื่ออำพรางศพและนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาคือ นายเต็ม เรืองเพ็ญ อายุ 29 ปี เลขที่ 35 หมู่ที่ 2 บ้านหนองแสง ตำบลสงเปลือย อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ภายหลังจากทำการขยายผลค้นหารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน ขคบ 874 กาฬสินธุ์ ของผู้ตาย ซึ่งได้นำเอาไปจำนำไว้กับนายชัชวารศ์ ธรรมศิลป์ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ที่ 8 บ้านหนองแสง ตำบลสงเปลือย อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ และได้เร่งขยายผลพร้อมนำหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เลขที่ 503 และเลขที่ 504 เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักในขณะที่นอนหลับอยู่
ทั้งนี้ นายเต็ม เรืองเพ็ญ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าข่มขืน และเผา น.ส.กรรณิกา นักเรียนชั้น ม.4 จริง ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน 2555 โดยก่อนเกิดเหตุตนได้ดื่มสุรา และเสพยาบ้าไป 2 เม็ด จากนั้นได้มาเที่ยวงานบุญกฐินในบ้านาโก หมู่ที่ 3 ตำบลนาโก อำเภอกุฉินารายณ์ และได้พบผู้ตายที่บริเวณถนนระหว่างอำเภอกุฉินารายณ์ ไปอำเภอเขาวง ตรงบริเวณแยกบ้านนาโก ตำบลนาโก ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ
โดยผู้ต้องหาอ้างว่า เห็นผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์สวมชุดนักเรียนมาคนเดียวจึงเกิดอารมณ์ พร้อมได้ตะโกนแซว ก่อนที่จะใช้อุบายหลอกให้หยุดรถจักรยานยนต์ และขู่บังคับ และฉุดลากเข้าไปทำการข่มขืนบริเวณจุดเกิดเหตุ แต่เนื่องจากผู้ตายไม่ยอม และต่อสู้จึงได้ทำร้ายร่างกายโดยใช้เท้ากระทืบไปที่บริเวณท้องหลายครั้ง จนผู้ตายอ่อนแรง จากนั้นจึงได้ข่มขืน ระหว่างนั้นผู้ตายกับฟื้นขึ้นมา และพยามต่อสู้ ตนจึงกระทืบซ้ำเข้าไปท้อง ต้นคอ อีกหลายครั้งพร้อมกับใช้มือบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนที่จะใช้ขวดน้ำไปเอาน้ำมันที่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปราด และจุดไฟเผาร่างแล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ทั้งนี้ ผู้ต้องการได้ให้การรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้านว่า หลังจากหลบหนีไปแล้วจึงนำรถจักรยานยนต์ไปจำนำ เป็นเงิน 4,000 บาท แล้วไปซื้อยาบ้าเสพ และไม่คิดว่าจะถูกจับ ผู้ต้องหายังบอกว่า ไม่คิดที่จะหลบหนีเพราะภายหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปหลายวันก็ยังไปรับจ้างเกี่ยวข้าวอยู่เลย
ด้าน พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้ ก่อนหน้าเมื่อปี 2549 หลังจากปลดประจำการจากทหารเกณฑ์ได้ไม่นาน ได้ก่อคดีข่มขืนหญิงอายุ 17 ปี และถูกศาลจำคุก และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปี 2553 และได้กลับมาก่อคดีสะเทือนขวัญ ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้งข้อหานายเต็ม เรืองเพ็ญ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กระทำชำเราผู้อื่นถึงแก่ความตาย ลอบฝัง ซ่อนเร้นเผาทำลายศพ ส่วนนายชัชวาลค์ ธรรมศิลป์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหารับซื้อของโจรดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภายหลังแถลงข่าวเสร็จ ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณร่องน้ำป่าสาธารณะชุมชนบ้านโนโก ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ แต่ไม่สามารถลงรถทำแผนได้ เนื่องจากมีญาติ และชาวบ้านกว่า 5 พันคน ที่ต่างพากันโกรธแค้นได้รอที่จะรุมประชาทัณฑ์ ตำรวจจึงยกเลิกการทำแผนจึงได้นำตัวไปฝากขังที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป