อ่างทอง - ผู้เฒ่าเมืองอ่างทอง วัย 78 ปี ประกาศไม่ยอมย้ายบ้านออกจากตลิ่งริมเจ้าพระยา หลังตลิ่งพังลงแม่น้ำต่อเนื่องจนลามถึงเสาบ้าน เผยที่ไม่ย้ายเพราะไม่มีเงินสร้างบ้านใหม่ และไม่มีที่ดิน แม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะนอนไม่หลับหวั่นบ้านพังก็ตาม
วันนี้ (10 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสภาพดินที่สไลด์พังลงแม่น้ำเจ้าพระยาลามจนถึงตัวบ้านของนายวิชัย ภู่พันธุ์ อายุ 78 ปี ที่บ้านเลขที่ 169/ง หมู่ 4 ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ซึ่งบ้านของนายวิชัย ตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยดินที่พังทลายลงแม่น้ำเจ้าพระยานั้นบางจุดพังถึงเสาบ้านแล้ว แต่ทางเทศบาลตำบลป่าโมก ก็ได้นำเสาไม้ยูคาฯ มาตอกกันตลิ่งพังจนถึงตัวบ้าน และบางจุดหางจากตัวบ้านไม่ถึง 1 เมตร ซึ่งได้สร้างความหวาดเสียว และน่ากลัวให้แก่ผู้คนที่พบเห็นอย่างมาก เนื่องจากกลัวว่าบ้านของนายวิชัย จะพังลงทั้งหลัง และเมื่อน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงก็ทำให้บ้านของนายวิชัยที่อาศัยอยู่คล้ายกับปลูกอยู่บนหน้าผาที่สูงร่วม 10 เมตร ซึ่งถ้าพังลงมาอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินได้
นายวิชัย เจ้าของบ้านเปิดเผยว่า ที่บริเวณปลูกบ้านนั้นเป็นของพ่อแม่ที่ยกให้ ซึ่งตนอยู่มานานแล้ว แต่ก่อนนั้นตลิ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านมาก แต่หลังจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา เมื่อน้ำลดลงก็ทำให้ดินพังทลายลงจนมาถึงบ้านของตนเอง แต่ก็ต้องทนอยู่แม้จะนอนผวาตลอดเวลาก็ต้องทนอยู่ต่อไป และจะไม่ย้ายไปไหน เนื่องจากไม่มีที่ดินจะไปปลูกบ้านหลังใหม่ และไม่มีเงินที่จะไปสร้างบ้านหลังใหม่
“เดิมบ้านหลังนี้เราอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีภรรยา ผม และหลานอีก 2 คน ส่วนภรรยาและหลานทั้ง 2 คนนั้น ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลป่าโมก ได้จัดที่อยู่ให้แล้วโดยให้ไปอาศัยอยู่ที่โรงเรียนวัดป่าโมก ส่วนที่บ้านนั้นผมจะอยู่นอนเพียงคนเดียวและจะอยู่ต่อไป” นายวิชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลป่าโมกได้ติดต่อประสานงานกับนายวิชัย ในการจัดสรรที่ดินให้อยู่อาศัยพร้อมทั้งบริการรื้อ และสร้างบ้านให้นายวิชัยแล้ว ส่วนนายวิชัย ยังไม่ยอมตกลงในการย้าย โดยเป็นห่วงเรื่องที่ดินของตนเองที่ต้องสูญหายไปโดยไม่มีทางกลับคืนมาเหมือนเดิมได้