ตราด-เจ้าหน้าที่อุทยานฯ หมู่เกาะช้าง เข้ารื้อถอนสะพานแขวน-บ้านพัก หลังตรวจสอบพบมีการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ พร้อมประกาศเตรียมรื้ออีก 7 แห่ง ในพื้นที่เกาะช้างใต้
จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ได้เข้าบุกยึดที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ประกอบด้วย สะพานแขวนลวดสลิง มีพื้นไม้เป็นทางเดินเท้าจากโรงแรมข้ามภูเขาซึ่งเป็นหุบเหวลึก โดยสร้างเชื่อมต่อจากที่ดินของโรงแรมหรูไปยังพื้นที่ป่าซึ่งเป็นเขตของอุทยานฯ เกาะช้าง ตัวสะพานมีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร และบ้านไม้ยกสูง อีกจำนวน 1 หลัง เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2555 และได้ดำเนินการประกาศหาเจ้าของให้มารายงานตัวต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง แต่ปรากฏว่า ไม่มีใครออกมารับผิดชอบ หรือรับเป็นเจ้าของ ทั้งนี้ สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวตั้งอยู่ที่ หมู่ 4 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ติดอยู่กับที่ดินและสิ่งก่อสร้างของโรงแรมซีวิวรีสอร์ท
ดังนั้น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง โดยนายพงษ์ศักดิ์ คงเดชอดิศักดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จึงได้นำกำลังกว่า 40 นาย เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ซึ่งการรื้อสะพานดังกล่าวเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันขันนอตเพื่อเอาพื้นไม้ของสะพานออกทีละแผ่นก่อน จากทั้งหมดกว่า 150 แผ่น หลังจากนั้น ต้องใช้อุปกรณ์ตัดลวดสลิงขนาดใหญ่ และทุบทำลายฐานเหล็ก และคอนกรีตที่รับน้ำหนักตัวสะพานทั้ง 2 ด้านออกไปด้วย โดยต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน
สำหรับการเข้ารื้อถอนในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่เข้าไปในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิของรีสอร์ตหรู กลัวถูกข้อหาบุกรุก เพราะขณะช่วงก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้ารื้อถอนสะพาน ทางรีสอร์ตได้ให้พนักงานมาคอยบันทึกภาพเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวอย่างละเอียดทุกขั้นตอน
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ทางอุทยานฯ ทำหนังสือไปปิดประกาศไว้โดยมีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากเขตอุทยานฯ หลังจากได้ตรวจสอบโดยอุปกรณ์จีพีเอสวัดค่าพิกัดอย่างละเอียดแล้ว พบว่า เป็นการกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 โดยเฉพาะตัวสะพานแขวนที่สร้างอย่างมั่นคงแข็งแรง น่าจะมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ของโรงแรม ซีวิวรีสอร์ท เป็นโรงแรมหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะช้าง ซึ่งตั้งอยู่ในย่านไก่แบ้ หมู่ที่ 4 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด
ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้อาศัยอำนาจบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 21 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งให้รื้อถอนได้ สาเหตุที่นำกำลังเข้ารื้อถอนในครั้งนี้ เพราะได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่า มีสิ่งปลูกสร้าง 2 รายการดังกล่าวในข้างต้น ได้บุกรุกพื้นที่ป่า โดยตั้งอยู่ในเขตของอุทยานฯ จริง จึงต้องบังคับใช้กฎหมาย ตามมาตรา 22 เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถใช้ดุลยพินิจเข้าดำเนินการรื้อถอนเองได้
ในส่วนของผู้กระทำความผิดไม่ยอมปฏิบัติตาม หรือไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิด และถ้ามีการพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นเจ้าของผู้กระทำผิด ก็จะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนทั้งหมดตามมาในภายหลัง
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะเข้ารื้อถอนรีสอร์ตที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ อีกอย่างน้อยอีก 7 ราย โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.เกาะช้างใต้ ที่บ้านหมู่ 1 บ้านบางเบ้า ทั้งที่เป็นรีสอร์ต และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่ศาลจังหวัดตราดได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด พร้อมกับสั่งให้มีการบังคับคดีให้ทำการรื้อถอนต่อไป
จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ได้เข้าบุกยึดที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ประกอบด้วย สะพานแขวนลวดสลิง มีพื้นไม้เป็นทางเดินเท้าจากโรงแรมข้ามภูเขาซึ่งเป็นหุบเหวลึก โดยสร้างเชื่อมต่อจากที่ดินของโรงแรมหรูไปยังพื้นที่ป่าซึ่งเป็นเขตของอุทยานฯ เกาะช้าง ตัวสะพานมีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร และบ้านไม้ยกสูง อีกจำนวน 1 หลัง เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2555 และได้ดำเนินการประกาศหาเจ้าของให้มารายงานตัวต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง แต่ปรากฏว่า ไม่มีใครออกมารับผิดชอบ หรือรับเป็นเจ้าของ ทั้งนี้ สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวตั้งอยู่ที่ หมู่ 4 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ติดอยู่กับที่ดินและสิ่งก่อสร้างของโรงแรมซีวิวรีสอร์ท
ดังนั้น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง โดยนายพงษ์ศักดิ์ คงเดชอดิศักดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จึงได้นำกำลังกว่า 40 นาย เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ซึ่งการรื้อสะพานดังกล่าวเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันขันนอตเพื่อเอาพื้นไม้ของสะพานออกทีละแผ่นก่อน จากทั้งหมดกว่า 150 แผ่น หลังจากนั้น ต้องใช้อุปกรณ์ตัดลวดสลิงขนาดใหญ่ และทุบทำลายฐานเหล็ก และคอนกรีตที่รับน้ำหนักตัวสะพานทั้ง 2 ด้านออกไปด้วย โดยต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน
สำหรับการเข้ารื้อถอนในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่เข้าไปในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิของรีสอร์ตหรู กลัวถูกข้อหาบุกรุก เพราะขณะช่วงก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้ารื้อถอนสะพาน ทางรีสอร์ตได้ให้พนักงานมาคอยบันทึกภาพเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวอย่างละเอียดทุกขั้นตอน
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ทางอุทยานฯ ทำหนังสือไปปิดประกาศไว้โดยมีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากเขตอุทยานฯ หลังจากได้ตรวจสอบโดยอุปกรณ์จีพีเอสวัดค่าพิกัดอย่างละเอียดแล้ว พบว่า เป็นการกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 โดยเฉพาะตัวสะพานแขวนที่สร้างอย่างมั่นคงแข็งแรง น่าจะมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ของโรงแรม ซีวิวรีสอร์ท เป็นโรงแรมหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะช้าง ซึ่งตั้งอยู่ในย่านไก่แบ้ หมู่ที่ 4 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด
ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้อาศัยอำนาจบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 21 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งให้รื้อถอนได้ สาเหตุที่นำกำลังเข้ารื้อถอนในครั้งนี้ เพราะได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่า มีสิ่งปลูกสร้าง 2 รายการดังกล่าวในข้างต้น ได้บุกรุกพื้นที่ป่า โดยตั้งอยู่ในเขตของอุทยานฯ จริง จึงต้องบังคับใช้กฎหมาย ตามมาตรา 22 เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถใช้ดุลยพินิจเข้าดำเนินการรื้อถอนเองได้
ในส่วนของผู้กระทำความผิดไม่ยอมปฏิบัติตาม หรือไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิด และถ้ามีการพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นเจ้าของผู้กระทำผิด ก็จะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนทั้งหมดตามมาในภายหลัง
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะเข้ารื้อถอนรีสอร์ตที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ อีกอย่างน้อยอีก 7 ราย โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.เกาะช้างใต้ ที่บ้านหมู่ 1 บ้านบางเบ้า ทั้งที่เป็นรีสอร์ต และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่ศาลจังหวัดตราดได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด พร้อมกับสั่งให้มีการบังคับคดีให้ทำการรื้อถอนต่อไป
