แค้นถูกตัดไฟ! เสี่ยร้านจิวเวอรี่คว้าปืนยิงพนักงานตัดไฟดับกลางเมืองเชียงใหม่

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เสี่ยร้านจิวเวอรี่ แค้นจัดถูกพนักงานตัดกระแสไฟฟ้าซ้ำแล้วซ้ำอีกแทบทุกเดือน จนคราวนี้เครียดหนัก หลังไม่ได้หลับได้นอนในคืนลอยกระทง เพราะมีการจุดประทัดเสียงดังตลอดเวลา ยังมาถูกตัดไฟซ้ำ วิ่งเข้ากลับไปคว้าปืน 11 มม.ยิงพนักงานตัดไฟดับคาหน้าร้าน

วันนี้(30 พ.ย.55) ร.ต.ต.ประยุพ วงศ์รัตน์มัจฉา ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุมีเสี่ยเจ้าของร้านจิวเวอรี่ ยิงคนตายเหตุเกิดบริเวณหน้าร้านดวงตาเพชร อัญมณีและเครื่องประดับ เลขที่ 84/50 หมู่บ้านโชตนานิเวศน์ 1 ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่, พ.ต.อ.กิตติสินธุ์ คงทวีพันธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวรจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมใจ

ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบริเวณหน้าร้าน พบศพชายสวมเสื้อลายพรางสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์สีดำ ทราบชื่อคือนายเสน่ห์ ชัยคุณา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 ตำบลสันพระเนตร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ตำแหน่งปฏิบัติงานงดจ่ายกระแสไฟฟ้า แผนกมิเตอร์บัญชีและประมวลผล บริษัทเอสพีเอ็น อิเล็คทริค จำกัด ซึ่งได้สัมปทานการดูแลค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 11 มม.เข้าที่บริเวณหน้าอก 1 นัด นอนตายจมกองเลือด ข้างตัวพบเอกสารการจัดเก็บค่าไฟฟ้าในเขตพื้นที่ตำบลช้างเผือก และรถยามาฮ่ามีโอสีแดง หมายเลขทะเบียน งบง 753 เชียงใหม่ จอดอยู่

ส่วนมือปืนที่ยืนถือปืนรออยู่หน้าศพทราบชื่อคือนายสมบุญ กุลศิวะพร อายุ 41 ปีเจ้าของร้านเพชร ที่เกิดเหตุยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอาวุธปืน 11 มม. 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก กระสุนปืนชนิดต่างๆกว่า 100 นัด

จากการสอบสวนนายสุรพงษ์ รูปน้ำคำ อายุ 25 ปีพนักงานปฏิบัติงานงดง่ายกระแสไฟฟ้า ที่มากับผู้ตายให้การว่า ได้เดินทางมาที่ร้านดังกล่าวเพื่อตัดไฟฟ้า เพราะเจ้าของร้านไม่ยอมจ่ายค่าไฟ และทางการไฟฟ้าก็อนุมัติให้ทำการตัดไฟฟ้าได้ พอมาถึงที่ร้านตนเองก็เดินไปดูมิเตอร์ไฟบ้านหลังอื่น และเห็นนายเสน่ห์ (ผู้ตาย)กำลังใช้อุปกรณ์ไขควงทำการปลดสายไฟฟ้าเพื่อตัดกระแสไฟฟ้าที่จ่ายเข้าร้านเพชรที่เกิดเหตุพอทำเสร็จ อยู่ๆก็เห็นนายสมบุญ เจ้าของร้านเปิดประตูกระจกร้านออกมาและใช้ปืนยิงนายเสน่ห์ 1 นัดจนล้มลงไป ตนเห็นเหตุการณ์ก็ตกใจวิ่งหนีออกไปข้างนอกและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังจากถูกจับกุมนายสมบุญ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือยิงนายเสน่ห์ เองกับมือสาเหตุเพราะตนเองเครียดจัด เมื่อคืนมีงานลอยกระทงมีการจุดประทัด เสียงดังมาโดยตลอดทำให้นอนไม่หลับ ประกอบกับในตอนบ่ายวันนี้ (30 พ.ย.)อากาศร้อนและเห็นคนกำลังมาตัดไฟฟ้า และทุกเดือนที่ผ่านมาตนเองก็ถูกตัดไฟฟ้ามาโดยตลอด สาเหตุไม่ใช่เพราะตนเองไม่มีเงิน แต่ไม่มีเวลาไปจ่าย ตอนแรกการไฟฟ้าให้จ่ายสิ้นเดือน จนถึงต้นเดือน แต่อยู่ๆก็มาเลื่อนให้จ่ายเร็วขึ้นเป็นก่อนสิ้นเดือน

ช่วงนั้นตนเองกำลังทำธุระกิจค้าขายเพชรทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ไม่มีเวลาไปจ่าย หลายเดือนที่ผ่านมาตนเสียค่าปรับในการถูกตัดไฟมาโดยตลอด บางครั้งก็ถูกยกหม้อไฟไป ตนเองก็พยายามบอกกับพนักงานการไฟฟ้าหลายครั้งว่า อย่าตัดไฟฟ้า ขอจ่ายสิ้นเดือน หรือช่วงต้นเดือน แต่ก็ถูกพนักงานมาตัดไฟทุกครั้ง ด้วยความโมโหที่ต้องเจออยู่ในทุกๆเดือนพอวันนี้มาเห็นก็เลือดขึ้นหน้าคว้าปืนออกมายิงจนพนักงานตัดไฟคนดังกล่าวเสียชีวิต และตนเองก็ยืนรอมอบตัวไม่หลบหนี

นายสมบุญ อ้างว่า ถูกพนักงานต่อว่าอย่างรุ่นแรงและเกิดการทะเลาะกันขึ้นจึงเข้าไปในร้านและคว้าปืนมายิงพนักงานที่ทำการตัดไฟฟ้าร้านตนเองจนเสียชีวิตและยืนรอมอบตัวตำรวจดังกล่าาว

ด้าน พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า คดีนี้เราก็จะควบคุมตัวดำเนินคดีข้อหา"ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" ส่วนคดีอาวุธปืนเราก็จะต้องขอเวลาการตรวจสอบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่พบจำนวนกว่า 100 นัดว่ามีใบถูกต้องตามกฏหมาย หรือไม่ ส่วนผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ประกอบกับเกิดอาการเครียด จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ทุกอย่างก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมายต่อไป