“ด.ต.หาดเจ้าสำราญ” อ้างปฏิบัติตามหน้าที่ แต่ยอมรับต่อผู้บังคับบัญชาว่า “ทำร้ายร่างกายเด็กจริง”

เพชรบุรี - “ด.ต.หาดเจ้าสำราญ” ตีนโหด วอนสื่อขอความเป็นธรรม อ้างปฏิบัติตามหน้าที่ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร แต่ยอมรับต่อผู้บังคับบัญชาว่า “ทำร้ายร่างกายเด็กจริง” ด้านญาติเด็กยันยอมไม่ได้ จะเอาเรื่องถึงขั้นย้าย หรือให้ออกจากราชการ พร้อมเผยทางตำรวจขอเจรจาไกล่เกลี่ยให้ยอมความกัน

วันนี้ (30 พ.ย.) พ.ต.ท.พงศ์ธร ปิตุทิพย์ สารวัตรใหญ่ สภ.หาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเด็กวัยรุ่นชาว ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี 3 คน ที่ถูกดาบตำรวจ สภ.หาดเจ้าสำราญ ทำร้ายร่างกายในคืนลอยกระทงว่า ตนได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแล้ว เกี่ยวกับที่นางกชพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี มารดาของนายโอ๊ด นามสมมติ อายุ 15 ปี ชาว ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมืองเพชรบุรี ที่อ้างว่าถูก ด.ต.ปิยะ ศรีจันทร์ ผบ.หมู่งาน ป.สภ.หาดเจ้าสำราญ ทำร้ายร่างกายพร้อมเพื่อนรวม 3 คน โดยตนยืนยันว่าจะดำเนินการตามข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย หากพบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาทำผิดจริงก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด

ขณะที่ วันนี้ (30 พ.ย.) ช่วงเวลา 14.00 น.ด.ต.ปิยะ ศรีจันทร์ ผู้ที่ถูกเด็กวัยรุ่นทั้ง 3 คนระบุว่าเป็นผู้ที่ทำร้ายร่างกายได้ติดต่อให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ช่องหนึ่ง โดยกล่าวยอมรับว่า ในคืนเกิดเหตุตนพร้อมตำรวจสายตรวจรถยนต์ได้ควบคุมตัวเด็กวัยรุ่นทั้ง 3 คนไปที่ สภ.หาดเจ้าสำราญ จริง เพราะทราบว่าเด็กวัยรุ่นทั้ง 3 คนอยู่ในกลุ่มเด็กอันธพาลที่รวมตัวกันเป็นแก๊งเด็กหลังวัดหาดเจ้าสำราญ และก่อเหตุทะเลาะวิวาทภายในงานลอยกระทงที่เทศบาลตำบลหาดเจ้าสำราญจัดขึ้น โดยมีวัยรุ่นใน ต.บางขุนไทร อ.บ้านแหลม ถูกฟันได้รับบาดเจ็บ 1 คน

“หลังงานเลิกขณะที่ขับรถออกตรวจพื้นที่โดยลำพังพบเห็นเด็กวัยรุ่นทั้ง 3 คน จอดรถแอบอยู่มุมตึกใกล้ที่ทำการสำนักงานเทศบาลตำบลหาดเจ้าสำราญในท่าทางมีพิรุธ ไม่จูงรถอยู่ริมถนนอย่างที่กลุ่มเด็กให้การ จึงขับรถยนต์เข้าไปหาแต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ก่อนจะวิทยุเรียกสายตรวจรถยนต์มารับตัว และนำไปแยกย้ายกันสอบสวน และไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ส่วนบาดแผลที่เกิดขึ้นตามร่างกายของทั้ง 3 คนอาจเป็นบาดแผลที่เกิดจากการทะเลาะวิวาทภายในงาน และหลบหนีออกมา จึงอยากจะขอความเป็นธรรมให้แก่ผมด้วยเนื่องจากผมทำตามหน้าที่ ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งใคร” ด.ต.ปิยะกล่าว

แต่เรื่องดังกล่าวมีการยืนยันจากการเปิดเผยของพยานที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มแรกที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นทั้ง 3 คนถูกควบคุมตัวขึ้นรถยนต์สายตรวจของ สภ.หาดเจ้าสำราญ โดยนายเอกบดี ฟักฟูมสิน อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดเพชรบุรี พยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวทั้ง 3 คนนั้น ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะไปส่งแฟนที่บ้านบางทะลุ ซึ่งเป็นทางผ่านแล้วมาพบเหตุการณ์ขณะที่ตำรวจนำตัวเด็กทั้ง 3 คนขึ้นรถไปแล้ว โดยตนเรียกรถสายตรวจจอดเพื่อต้องการไต่ถามถึงการจับกุมตัวเด็กทั้ง 3 คน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมจอด ตนจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังไปยัง สภ.หาดเจ้าสำราญ

“เมื่อไปถึงพบว่า ด.ต.ปิยะ นำตัวทั้ง 3 ขึ้น สภ. และนำตัวนายกาญจน์ เข้าไปในห้อง นายโอ๊ด อยู่หน้าห้องขัง กับนายหนึ่ง และเห็นขณะที่ ด.ต.ปิยะ กำลังใช้ไม้กระบองกระทุ้งร่างกาย และเตะนายกาญน์ อยู่ จนกระทั่งนายกาญจน์ หมอบลงกับพื้น ซึ่งตนได้วิ่งเข้าไปเพื่อจะถามว่าทำร้ายเด็กทำไม แต่กลับถูก ด.ต. ลากตัวออกมาจากที่เกิดเหตุ และผลักให้ลงไปจากโรงพัก พร้อมกับพูดบอกว่า “ไม่ใช่เรื่องของมึง มึงลงไปไม่ต้องขึ้นมา” ซึ่งนายเอกบดี ที่ถูกขับไล่ได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับไปที่บ้านโดยไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ก่อนที่จะขี่รถย้อนกลับมาดูเด็กทั้ง 3 คนอีกครั้งที่ สภ. ซึ่งพบว่า มารดาของนายโอ๊ดได้เดินทางมาดูลูกชายที่ สภ.พอดี จึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง” นายเอกบดีกล่าว

ด้านนายวีรยุทธ วิเศษโวหาร อายุ 35 ปี บิดาของนายโอ๊ด เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) ที่มีผู้ปกครองของนายกาญจน์ และนายหนึ่ง เดินทางเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมกรณีถูก ด.ต.ปิยะ ทำร้ายร่างกาย ซึ่งหลังสอบปากคำแล้ว พ.ต.ท.พงศ์ธร ปิตุทิพย์ สารวัตรใหญ่ สภ.หาดเจ้าสำราญ ได้เรียกตนเข้าไปพูดคุยเพื่อขอเจรจาไกล่เกลี่ยให้ยอมความ โดยทางสารวัตรใหญ่ สภ.หาดเจ้าสำราญ บอกว่า ให้ตนกลับไปคิดว่าถ้าเกิดเอาเรื่องกับตำรวจคนนี้จริงๆ แน่นอนจะต้องดำเนินการตามความผิดทางวินัย โดย ด.ต.ปิยะ ได้ยอมรับกับ พ.ต.ท.พงศ์ธร ปิตุทิพย์ สารวัตรใหญ่ สภ.หาดเจ้าสำราญว่า ทำผิดจริง อีกทั้งยังได้บอกด้วยว่า ขณะนี้ได้ให้ ด.ต.ปิยะ ไปช่วยราชการที่อื่นก่อนแล้ว แต่ไม่ระบุว่าให้ไปอยู่ที่ใด อีกทั้งได้มีการพูดจาไกล่เกลี่ยเพื่อที่จะให้ยอมความกัน

“สำหรับกรณีที่ ด.ต.ปิยะ ให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมนั้นเรื่องนี้ตนพูดได้เต็มปากว่า ด.ต.ปิยะ ไม่เป็นลูกผู้ชายพอ อีกทั้งจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จนถึงขั้นย้ายออกนอกพื้นที่ หรือให้ออกจากราชการตำรวจไปเลย” นายวีรยุทธกล่าวในที่สุด

อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :

1.ผู้ปกครองวัยรุ่นเมืองเพชรแจ้งความ “ด.ต.” ตีนโหดแล้ว
2.ฉาวอีก “ด.ต.เมืองเพชร” กระทืบวัยรุ่น 3 คนรวดคาโรงพักโดยไม่มีข้อกล่าวหา