อ่างทอง - สุดสลด สาวใหญ่ พร้อมลูกชาย 2 คน ถูกลอบวางยา โชคดีญาติเห็นเข้าพอดีรีบหามส่งโรงพยาบาลอาการสาหัส หลังถูกกล่าวหาขโมยเงินไป 2 หมื่นบาท ตำรวจเร่งหาข้อมูลตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
วันนี้ (20 พ.ย.) ร.ต.ต.ไพศาลร์ แจ่มมี ร้อยเวร สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งความจากแนางภิรมพร น้ำดอกไม้ อายุ 34 ปี ว่า นางประทุม งามเจริญ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 6 ต.โคกพุทธา อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง กับ ด.ช.สันติ ชายสีอ่อน อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนโพธิ์ทองจินดามณี และ ด.ช.ชัยชนะพล ชายสีอ่อน อายุ 10 ปี น้องชายเรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดศีลขันธาราม ทั้งหมดเป็นแม่ลูกกัน ถูกคนร้ายลอบวางยาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอ่างทอง จึงขอให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีด้วย
นางภิรมพร ซึ่งเป็นญาติของเหยื่อยาพิษให้การว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้หลังจากตื่นนอนนางประทุม ได้แต่งตัวเตรียมไปทำงานรับจ้างทั่วไป ส่วนลูกชายทั้ง 2 คน กำลังจะไปเรียนหนังสือ ระหว่างนั้น นางประทุม ได้นำน้ำในตุ่มมาต้มน้ำร้อนในหม้อหุงข้าวแล้วชงโอวัลตินให้ลูกชายทั้ง 2 คนดื่มคนละครึ่งแก้ว ส่วนนางประทุม ชงกาแฟดื่ม 1 แก้ว จากนั้น นางประทุม ได้จูงจักรยานยนต์เพื่อเตรียมไปส่งลูก แต่เมื่อทั้งหมดจะขึ้นรถกลับมีอาการคล้ายคนหมดแรง ตัวสั่น ก่อนจะล้มลงแล้วน้ำลายฟูมปาก ต่อมานายภัทรกร ขวัญยืน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.โคกพุทธา ผ่านมาเห็นจึงรีบนำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาล เบื้องต้น แพทย์ช่วยเหลือด้วยการล้างท้องให้ และส่งตัวอย่างน้ำลายที่เก็บได้ไปตรวจหาสารพิษ
นางภิรมพล กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุในครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องเมื่อ 2 วันก่อน มีชายฉกรรจ์มาอุ้มลูกชายทั้งสองคนของนางประทุมไปรุมทำร้ายจนใบหน้าบวมปูด โดยหาว่าเด็กชายทั้งสองไปขโมยเงินจำนวน 2 หมื่นบาทไป จึงถูกอุ้มไปทำร้ายให้รับสารภาพ แต่เด็กทั้งคู่ไม่ได้เอาไปเลยไม่ยอมรับ ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นคนเดียวกัน
ด้าน น.ส.อ้อย น้ำดอกไม้ อายุ 27 ปี หลานสาวนางปทุม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่นางปทุม กำลังจะไปส่งลูกชายทั้ง 2 ไปโรงเรียน โดยขณะที่เดินไปขับขี่รถจักรยานยนต์ก็มีอาการชักเกร็ง และน้ำลายฟูมปาก ซึ่งลูกชายของนางปทุม ก็มีอาการเดียวกัน ทางญาติๆ เห็นจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ก่อนที่ทางโรงพยาบาลโพธิ์ทอง จะส่งต่อมายังโรงพยาบาลอ่างทอง ซึ่งจากการสอบถามหลานทั้ง 2 ได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 ชงโอวัลตินแบ่งกันกินคนละครึ่ง ส่วนแม่ชงกาแฟกิน และก็มีอาการดังกล่าว จนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีที่โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งจากการถามหมอก็บอกว่าโดนพิษยาฆ่าหญ้า แต่ขอให้ตรวจพิสูจน์ให้เรียบร้อยก่อน
ขณะที่นายไพฑูรย์ งามเจริญ อายุ 49 ปี พี่ชายของนางปทุม เปิดเผยว่า ปกติตนไม่อยู่บ้าน แต่วันนี้ตนอยู่ พอเห็นทั้ง 3 คนมีอาการก็รีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้รีบนำรถไปส่งโรงพยาบาล โดยแพทย์บอกว่า โดนพิษลักษณะยาฆ่าหญ้า หรือเลนเนท ซึ่งตนก็ปักใจเชื่อว่าทั้งหมดโดนวางยา เนื่องจากหลายวันก่อนมีคนกล่าวหาว่า ด.ช.ชัยชนะพล ไปลักเงินเขามา และมีการทำร้ายร่างกายเด็กก่อนอาฆาตว่าจะฆ่าให้ตาย จนมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทางเราได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทองแล้ว
ขณะที่ ร.ต.ต.ไพศาล แจ่มดี ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า เบื้องต้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ถูกวางยา หรือกินยาฆ่าตัวตาย เนื่องจากนางปทุมมีปัญหาหลายเรื่องไม่ว่าจะเรื่องที่แยกทางกับสามี และต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง เรื่องที่มีคดีเกี่ยวกับลักทรัพย์ ซึ่งทางลูกได้รับสารภาพว่า ลักเงินคู่กรณีไปจริงอาจจะทำให้เครียด ซึ่งพยานแวดล้อมยังไม่สามาถที่จะระบุได้ ส่วนอีกประเด็นคือ กรณีที่ทั้งหมดไปอาศัยบ้านพี่ชายของนางปทุม อยู่ และเคยมีเรื่องขัดใจกันบ่อยครั้ง และอาจจะเป็นสาเหตุในเรื่องนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียกพยานแวดล้อมมาสอบสวนต่อไป