ศูนย์ข่าวขอนแก่น-“ธิดาแดง” หยัน “เสธ.อ้าย” เป็นแค่หุ่นเชิดเครือข่ายกลุ่มอำมาตย์ที่สูญเสียผลประโยชน์จากระบอบประชาธิปไตย ระดมคนล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหวังแช่แข็งประเทศ กังขาภาคธุรกิจเอกชนทำไมไม่ออกมาต่อต้านการก่อม็อบที่อาจนำไปสู่การรัฐประหาร ย้ำไพร่แดงต้องอดทนยกระดับการต่อสู้เพื่อไม่ต้องเสี่ยงกับการสูญเสียซ้ำ ขณะที่ “คางคกตู่” สั่งบริวารแดงเตรียมพร้อมในที่ตั้งรอฟังคำสั่งแกนนำส่วนกลางเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่หัวค่ำวันนี้ (16 พ.ย.) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังเก่า กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ขอนแก่น และจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานประมาณ 5,000-6,000 คนได้ชุมนุมฟังปราศรัยจากแกนนำ นปช. ที่นำโดย นางธิดา ถาวรเศรษฐ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายอดิสร เพียงเกษ นายแพทย์เหวง โตจิราการณ์ ฯลฯ รวมถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทย
ในเวลาประมาณ 20.30 น. นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า การมารวมตัวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ขอนแก่นในวันนี้ เป็นการรวมพลังที่ยิ่งใหญ่ แต่เป็นการชุมนุมท่ามกลางบรรยากาศที่กดดัน เพราะกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามได้ออกมาเคลื่อนไหวนัดชุมนุมไม่ยอมรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ถือเป็นการเคลื่อนไหวของคนนอกระบอบประชาธิปไตย สวนทางกับคนทั้งโลกที่เขายอมรับการบริหารประเทศของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
พวกเราคนเสื้อแดงยังคงยืนหยัดที่จะต่อสู้กับระบอบอำมาตย์ ที่พวกเขาไม่ต้องการให้มีนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ “เสธ.อ้าย” ที่อ้างเป็นแกนนำกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามนั้น แท้จริงแล้วเป็นแค่หุ่นเชิดของคนบางกลุ่มที่สูญเสียประโยชน์จากระบอบประชาธิปไตย เป็นหุ่นเชิดตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคแมลงสาบ เป็นตัวแทนออกโรงแทนกองกำลังนอกระบบ ที่อดีตนำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นตัวแทนกองกำลังในระบบคือ กองทัพไทย ที่ผ่านมา อาจเห็นผู้นำกองทัพทำเป็นขึงขังประกาศห้ามบรรดาทหารออกไปร่วมชุมนุม แต่ยกเว้นว่าหากเมียพาไปฟังดูแล้วไม่สมเหตุสมผล
นอกจากนี้ พล.อ.บุญเลิศ ยังเคลื่อนไหวในนามของข้าราชการพลเรือนระดับสูงในเครือข่ายอำนาจตุลาการ รวมไปถึงการเป็นตัวแทนของกลุ่มนักธุรกิจที่ลงขันเงินทุนกว่า 6,000 ล้านบาทที่นำมาใช้เคลื่อนไหวล้มรัฐบาลในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งกลุ่มนักธุรกิจพวกนี้ล้วนได้ประโยชน์จากระบอบอำมาตย์ทั้งสิ้น
นางธิดากล่าวต่อว่า อยากถามไปยังสมาคมหอการค้า สภาอุตสาหกรรม นักธุรกิจนายธนาคารทั้งหลายว่า ทำไมไม่ออกมาคัดค้านการล้มรัฐบาล และแช่แข็งนักการเมือง ล้มล้างระบอบประชาธิปไตยของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามในครั้งนี้เพราะพวกเขาต้องการให้เกิดการรัฐประหาร หากมีการแช่แข็งระบบประชาธิปไตยอย่างน้อย 5 ปีอย่างที่ป่าวประกาศจริง
พวกคุณในฐานะนักธุรกิจ นักลงทุนจะอยู่กันได้อย่างไร การพัฒนาประเทศชาติจะยิ่งล้าหลังกว่าประเทศพม่าเสียอีก หรือว่าเป็นเพราะพวกคุณมีผลประโยชน์เกี่ยวโยงกับระบอบอำมาตย์ถึงยอมรับความพยายามล้มรัฐบาลแช่แข็งการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนบางพวกในบ้านนี้เมืองนี้ยังฝักใฝ่ในระบอบเผด็จการ ต่อต้านการบริหารประเทศของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ล่าสุด มีสื่อมวลชนคนหนึ่งที่ชื่อ สมจิตร ถามท่านเฉลิม อยู่บำรุง ว่าเป็นขี้ข้าทักษิณหรือเปล่า ยายสมจิตรคนนี้เป็นสือสารมวลชนที่ยืนเคียงข้างระบอบอำมาตย์หนุนการปกครองระบอบเผด็จการ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ขอให้ได้รับกรรมเพียงในไม่กี่วันนี้ก็แล้วกัน
ดังนั้น การต่อสู้กับกลุ่มบุคคลในเครือข่ายองค์การพิทักษ์สยามในครั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะการรวมพลังของกลุ่มคนเสื้อแดงเท่านั้น ต้องถือเป็นภารกิจของคนทุกกลุ่มทั้งประเทศ เพื่อหยุดยั้งการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ศึกครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับการต่อสู้ที่สูงขึ้นของคนเสื้อแดง ต้องมีวินัย สุขุม ลุ่มลึกมากขึ้น ทุกก้าวย่างต้องมีเหตุมีผล ไม่เช่นนั้นอาจต้องเสี่ยงภัยเผชิญกับการสูญเสียอีก
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวเสริมว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามเป็นเรื่องน่าขัน เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะล้มรัฐบาลยิ่งลักษ์ แม้ตัวนายกฯ ลาออก ก็ยังสามารถเลือกตัวนายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทยได้เช่นเดิม หรือแต่งตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมานั่งนายกฯ ได้ใหม่ได้อีก อำนาจการบริหารประเทศชาติก็ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม หากใครยังคิดทำรัฐประหารอีกจะต้องเจอตีนตบของพี่น้องคนเสื้อแดงทั้งประเทศ
สถานการณ์ทางการเมืองในห้วงคาบเกี่ยววันที่ 24 พ.ย.นี้ คนเสื้อแดงต้องขับเคลื่อนด้วยความอดทน ต้องไม่บุ่มบ่ามให้เข้าเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การทำรัฐประหารเด็ดขาด แต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมในที่ตั้ง และฟังการแถลงการณ์จากแกนนำส่วนกลางเป็นระยะๆ เท่านั้น
“พวกล้มรัฐบาลจะชุมนุมไล่รัฐบาลก็ทำไป พวกเราคนเสื้อแดงคอยจับตาอย่างใกล้ชิด ติดตามข่าวสารจากแกนนำให้ตลอดเวลา แต่อย่าหลงกลออกไปชุมนุม หรือไปปะทะกับคนพวกนี้เด็ดขาด ใครที่ออกไปถือว่าเป็นแดงเทียม” นายจตุพรกล่าว