ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชแล้งเข็ญ ชาวนา อ.โนนสูง ตัดใจใช้เครื่องตัดหญ้าตัดต้นข้าวในนาที่ขาดน้ำเหี่ยวแห้งตายจำนวนมากไปให้วัวกินแทนหญ้า เผยเดือดร้อนหนักไม่มีข้าวขายนำเงินมาใช้หนี้ ธ.ก.ส. ขณะที่ชาวนา อ.ห้วยแถลงหนีแล้งหันไปปลูกพริกพืชใช้น้ำน้อย แต่ไม่วายขาดน้ำ ร้อนจัดทำต้นพริกใบหงิกงอ เหี่ยวเฉายืนต้นตาย ขาดทุนยับ
วันนี้ (15 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ปัญหาภัยแล้ง จ.นครราชสีมา ทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางจังหวัดนครราชสีมาประกาศพื้นที่ประสบพิบัติภัยแล้งเพิ่มเป็น 8 อำเภอ มีพื้นที่ทางการเกษตรเสียหายไปแล้วเกือบ 4.5 แสนไร่ โดยเฉพาะที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เกษตรกรกำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากนาข้าวขาดแคลนน้ำทำให้ต้นข้าวเหี่ยวแห้งยืนต้นตายเป็นจำนวนมาก
นายเชื้อ แพจังหรีด อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 255 หมู่ 5 ต.ขามเฒ่า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ปีนี้ ตนลงทุนปลูกข้าวนาปี จำนวน 16 ไร่ โดยกู้เงินมาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กว่า 5 หมื่นบาท แต่ประสบปัญหาภัยภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงนานต้นข้าวในนายืนต้นแห้งตายไป 15 ไร่ เหลือเพียงแค่ 1 ไร่ที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้บ้าง วันนี้จึงนำเครื่องตัดหญ้ามาตัดต้นข้าวที่เหี่ยวเฉายืนต้นตายกว่า 15 ไร่ไปให้วัวกินเป็นอาหารแทนหญ้า เพราะหากทิ้งไว้ก็คงจะแห้งเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
“ปีนี้ต้องทำใจเป็นหนี้ ธ.ก.ส.ต่อไป เพราะทำนาไม่ได้ผลผลิต ไม่มีข้าวไปขายนำเงินไปใช้หนี้ ต้องยอมรับว่าครั้งนี้แล้งจริงๆ ซึ่งแม้แต่น้ำท่วมโคราชครั้งใหญ่ปี 2553 ยังสามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้ถึง 14 ไร่ เสียหายไปเพียง 2 ไร่เท่านั้น แต่มาในปีนี้ฝนทิ้งช่วงนานทำให้นาข้าวเสียหายเกือบทั้งหมด จึงเดือดร้อนหนัก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือโดยเฉพาะการจ่ายเงินชดเชยพื้นที่นาข้าวที่เสียหายให้คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป” นายเชื้อกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่เกษตรกรใน อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ได้พากันหันไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยในช่วงฤดูแล้ง ตามการแนะนำของหน่วยงานราชการ แต่ไม่วายประสบปัญหาพืชผลทางการเกษตรเสียหายจากภัยแล้งเช่นเดิม
นางม่าน เต็มสุข อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/1หมู่ 5 บ้านตะโก ต.ห้วยแคน อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากประสบภัยแล้งนาข้าวได้ผลผลิตน้อย จึงหันมาปลูกพริกแทนเนื่องจากเป็นพืชใช้น้ำน้อยและอายุสั้น โดยปีนี้ลงทุนปลูกไปกว่า 1 ไร่ แต่พริกที่ปลูกไว้ก็เริ่มเหี่ยวเฉายืนต้นตายเหมือนเดิม เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและแห้งแล้งขาดน้ำ ทำให้ต้นพริกใบหยิกงอ แห้งตาย และให้ผลผลิตเม็ดเล็กลีบไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถเก็บขายได้เหมือนปีที่ผ่านมา ทำให้ขาดรายได้และขาดทุน ซึ่งตอนนี้เกษตรกรรายอื่นๆ ก็ประสบปัญหาเดียวกันกับตน ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไรกันดี เพราะพืชผลทางการเกษตรเสียหายหมดแล้ว