ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชลงพื้นที่ไล่ตรวจสถานีสูบน้ำพร้อมกดปุ่มเดินเครื่องสูบน้ำช่วยนาข้าวเกษตรกรใน อ.โนนสูงที่กำลังยืนต้นตาย 1,548 ไร่ ขณะเกษตรกร อ.ห้วยแถลงสู้ภัยแล้งไถทิ้งนาข้าวยืนต้นแห้งตาย หันปลูก “ดาวเรือง” ใช้น้ำน้อยขายสร้างรายได้แทน เผยลงทุนแค่ไร่ละ 2,000 บาท โกยรายได้งาม 1-1.5 หมื่น/เดือน
วันนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีสูบน้ำไฟฟ้า บ้านหนองโจด ต.ลำมูล อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจความพร้อมของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านหนองโจด พร้อมกดปุ่มเดินเครื่องสูบน้ำจากลำน้ำมูล เพื่อส่งน้ำลงสู่คลองน้ำชลประทาน ไปช่วยพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนจำนวน 1,548 ไร่ที่ต้นข้าวขาดน้ำกำลังยืนต้นแห้งตาย
สำหรับสถานีสูบน้ำบ้านหนองโจดแห่งนี้เป็นสถานีสูบน้ำตามโครงการนำร่อง 1 จังหวัด 1 โครงการ และโครงการบูรณาการพัฒนาการเกษตรระดับจังหวัด อยู่ในความดูแลของสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา และเป็นสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขนาดกลาง ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 19.8 ล้านบาท โดยมีอัตราการสูบน้ำประมาณ 0.27 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สามารถปล่อยน้ำให้เกษตรกรที่ประกอบอาชีพทำการเกษตรรวม 1,584 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 350 ครอบครัว
ขณะเดินทางลงพื้นที่ นายวินัยได้กล่าวกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภาวะภัยแล้ง พร้อมเร่งสำรวจพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด และรายงานให้จังหวัดนครราชสีมาทราบทุกระยะ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมาได้ขยายวงกว้างออกไปอย่างต่อเนื่อง แต่เกษตรกรในพื้นที่ อ.ห้วยแถลงได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสด้วยการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเพื่อสร้างรายได้เสริมในฤดูแล้ง โดยนางวิรัช พรสุวรรณ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 9 ต.หลุ่งประดู่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า หลังเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง นาข้าวที่ปลูกไว้รอวันยืนต้นแห้งตาย ตนจึงตัดสินใจไถพรวนดินแปลงนาข้าวที่กำลังยืนต้นแห้งตายบางส่วนมาใช้เป็นพื้นที่ปลูกดอกดาวเรืองซึ่งเป็นพืชใช้น้ำน้อยและให้ผลผลิตเร็วแทน
โดยพื้นที่ 1 ไร่ใช้เงินลงทุนเพียง 2,000 บาทเท่านั้น สามารถเก็บดอกดาวเรืองขายสร้างรายได้กว่า 10,000-15,000 บาทต่อเดือน ตอนนี้ชาวบ้านในอำเภอห้วยแถลงเริ่มหันมาปลูกดอกดาวเรืองขายมากขึ้น หลังเผชิญปัญหานาข้าวเสียหายจากภัยแล้งเป็นจำนวนมาก
