อุดรธานี - ชาวบ้านอ้างเป็นศิษย์หลวงพ่อเจริญ วัดบ้านโนนสว่าง อ.หนองวัวซอ เหิมหนัก ยกโขยงถือเสียม-จอบบุกทำลายโบสถ์คริสต์โปรเตสแตนต์ ไม้กางเขน โต๊ะเก้าอี้ถูกทุบ เชื่ออาจเป็นเพราะหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดกลัวชาวบ้านไม่นับถือศรัทธาเหมือนเก่า เพราะมีโบสถ์คริสต์เข้ามาเผยแผ่ศาสนาแข่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหัวค่ำวานนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.ได้มีกลุ่มชาวบ้านและพระสงฆ์หลายสิบคนบุกเข้าทำลายบ้านซึ่งได้ตั้งเป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ที่บ้านเลขที่ 26 ม.3 บ้านโนนสว่าง ถนนสายบ้านโนนสว่าง-หนองวัวซอ ต.หนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
โดยนายโยธิน และนางจิตรานุช หยั่งพรสุข สามีภรรยาซึ่งเป็นผู้ดูแลอาคารหลังดังกล่าวเปิดเผยว่า อาคารดังกล่าวทางศาสนจักรโปรเตสแตนต์จังหวัดอุดรธานีสนับสนุนให้จัดตั้งขึ้นเป็นสถานที่ทำกิจทางศาสนา ซึ่งเมื่อประมาณเวลา 17.30 น.ได้มีบุคคลกว่า 20 คนมาที่อาคารและบุกเข้าทำลายสิ่งของทรัพย์สินต่างๆ ภายในตัวอาคาร ไม่ว่าจะเป็นป้ายชื่อของโบสถ์ที่หน้าอาคาร ไม้กางเขน โต๊ะ เก้าอี้ รูปภาพกิจกรรม และได้ยึดเอาไม้กางเขนไปด้วย
โดยในขณะเกิดเหตุคนที่บุกเข้าทำลายสิ่งของของโบสถ์นั้นได้ใช้ไม้ จอบ เสียม เป็นอาวุธบังคับให้อยู่เฉยๆ ไม่ให้ถ่ายรูป ขณะที่ตนเองโดนจับตัวนั้นได้มีพระสงฆ์ชี้หน้าตนและบอกให้ออกจากพื้นที่นี้ไป และบอกว่าที่นี่ไม่ต้องการศาสนาคริสต์ ไม่ต้องการพระเจ้า ที่นี่มีศาสนาเดียว
นายโยธินกล่าวต่อว่า สาเหตุที่เกิดเรื่องครั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากหลวงพ่อไม่ชอบคริสเตียน และกลัวชาวบ้านจะไม่ศรัทธาในตัวของพระสงฆ์
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุประชาชนในบริเวณใกล้เคียงโดยเฉพาะประชาชนที่นับถือศาสนาคริสต์ รวมทั้ง ศ.ดร.ประชา ไทยวัชรามาศ ประธานคริสตจักรโปรเตสแตนต์จังหวัดอุดรธานี และเป็นประธานมูลนิธิสีขาว ที่ทราบเหตุได้เดินทางมาดูแลเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงมามุงดูและวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ นายธีรภัทร อดิเทพ นายอำเภอหนองวัวซอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งเดินทางไปดูแลเหตุการณ์ พร้อมกับพูดคุยเจรจากับประชาชนที่นับถือศาสนาคริสต์ รวมทั้งประธานคริสตจักรโปรเตสแตนต์จังหวัดอุดรธานี
นายวศิน จันทรพล ป.อาวุโส อ.หนองวัวซอ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายอำเภอหนองวัวซอให้เป็นประธานในการแก้ไขปัญหาของโบสถ์ดังกล่าว ได้เปิดเผยว่า สถานที่แห่งนี้เคยได้มีการพูดคุยเจรจามา 2 ครั้งแล้ว เพราะว่าประชาชนที่อ้างตัวเป็นลูกศิษย์ของวัดบ้านโนนสว่างต้องการให้ย้ายออกไปตั้งอยู่ที่อื่น ซึ่งในวันที่ 13 พ.ย. 2555 เวลา 10.00 น. ศ.ดร.ประชา และตัวแทนของโบสถ์ดังกล่าวประมาณ 10 คนเดินทางไปประชุมร่วมกันกับหลายฝ่ายของอำเภอหนองวัวซอ เช่น วัฒนธรรมอำเภอ พุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี
โดยได้ข้อสรุปว่าทางโบสถ์ดังกล่าวพร้อมที่จะย้ายออกไปอยู่ที่อื่นตามที่ต้องการ แต่ขอเวลาที่จะไปหาสถานที่แห่งใหม่ และประกอบกับสัญญาการเช่าสถานที่กับเจ้าของเดิมยังไม่หมดลง และได้เสนอขอความช่วยเหลือต่อทางอำเภอหนองวัวซอว่าให้ทางอำเภอหาสถานที่ที่เป็นทรัพย์ของราชพัสดุให้เป็นสถานที่ตั้งแห่งใหม่
ด้าน ศ.ดร.ประชาเปิดเผยว่า พวกเราเป็นเพียงผู้เผยแผ่ศาสนาคริสต์ ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนแต่อย่างใด ประชาชนเองก็มีสิทธิตามกฎหมายว่าจะนับถือศาสนาใด เรามาอยู่ที่ตรงนี้มากว่า 3 ปีแล้วก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร จะให้พวกเราย้ายออกไป พวกเราก็พร้อมที่จะย้ายออกไป แต่ก็ต้องขอเวลาพวกเราบ้าง เพราะเรื่องของสถานที่โดยเฉพาะสัญญาที่ทำกับเจ้าของอาคารที่จะหมดลงในเดือนเมษายนปีหน้า