xs
xsm
sm
md
lg

จับแล้วอดีตน้องเขยซี 8 พิษณุโลก-เจ้าตัวอ้างอุ้มมาเคลียร์เรื่องเงินค่าฌาปนกิจศพเมียกว่า 6 แสนบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ผบก.กาญจนบุรี แถลงจับอดีตน้องเขย ข้าราชการซี 8 ผอ.กลุ่มส่งเสริมศาสนาศิลปวัฒนธรรมพิษณุโลก หลังหนีกบดานที่อำเภอบ่อพลอย ด้านผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ได้ใช้อาวุธปืนบังคับอดีตพี่เมีย เพียงแต่รับตัวที่พิษณุโลกเพื่อมาเคลียร์ปัญหาเรื่องเงินค่าฌาปนกิจศพของภรรยาที่เสียชีวิตไปกว่า 600,000 บาท โดยไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานความความคืบหน้า กรณี น.ส.เพลินตา ประดับสุข อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 459/470 หมู่ 7 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนาศิลปวัฒนธรรม จังหวัดพิษณุโลก ถูกคนร้ายอุ้มไปจากบ้านพักจาก จ.พิษณุโลก ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบทราบได้ว่า คนร้ายที่ก่อเหตุคือนายกิตติศักดิ์ คงอาจหาญ อดีตน้องเขย และพวกรวม 3 คน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 6 พ.ย.น.ส.เพลินตา จึงได้เดินทางกลับมาที่ จ.พิษณุโลก พร้อมทั้งให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกลักพาตัวไป จ.กาญจนบุรี

ต่อมา เวลา 15.30 น.วันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี ร่วมกันรับมอบตัวนายสมโภชน์ หมดทุกข์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 8 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี หลังจากได้เข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีทำให้เหลือผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับจากศาลจังหวัดพิษณุโลกอีก 2 คนที่ยังหลบหนีอยู่ คือ นายชูเกียรติ หรือเอก บุญอยู่ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 ซอยกำนันพันธ์ ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม และนายกิติศักดิ์ หรือเก่ง คงอาจหาญ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/5 หมู่ 8 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอให้ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีรีบเข้ามอบตัวโดยด่วน

จนกระทั่งเวลา 15.30 น.วันนี้ (13 พ.ย.) ที่ห้องประชุม บก.ภ.จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี พร้อม พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายกิติศักดิ์ หรือเก่ง คงอาจหาญ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/5 หมู่ 8 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป้นอดีตน้องเขย น.ส.เพลินตา ประดับสุข พร้อมอาวุธปืน BB GUN เลือนแบบ 11 มม. 1 กระบอก หลัง ตร.กก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี นำโดย พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี และ พ.ต.ต.กาจภณ ปฐมัง สว.กก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี นำกำลังไล่ล่าอย่างต่อเนื่องเพื่อกดดันให้ผู้ต้องหาที่ยังเหลืออยู่เข้ามอบตัว สุดท้ายสามารถจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ ได้ขณะกบดานอยู่ในพื้นที่หมู่ 13 ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

นายกิติศักดิ์ กล่าวในที่แถลงข่าวว่า ตนขอปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้อาวุธปืนบังคับ น.ส.เพลินตา แต่อย่างใด เพียงแต่รับตัวที่ จ.พิษณุโลก เพื่อมาเคลียร์ปัญหาเรื่องเงินค่าฌาปนกิจศพของภรรยาที่เสียชีวิตไปกว่า 600,000 บาท โดยภรรยาตนป่วย และเสียชีวิตเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา โดยมีลูกด้วยกัน 1 คน เงินค่าฌาปนกิจศพภรรยาตนมีกว่า 600,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ตน และลูกสมควรจะได้รับ แต่ น.ส.เพลินตา กลับเป็นคนเก็บเงินจำนวนดังกล่าวเอาไว้ ซึ่งก็ไม่ว่าอะไร

ต่อมา ตนพบว่าเงินในบัญชีธนาคารหายไปเหลือเพียง 61 บาทเท่านั้น ตนจึงไปสอบถามว่าเงินในบัญชีหายไปไหนหมดทำไมเหลือเท่านี้ และอ้างว่าให้ญาติพี่น้องของตนไปหมดแล้ว ตนจึงไปสอบถามบุคคลที่ น.ส.เพลินตาอ้างว่ามอบเงินให้ ซึ่งทุกคนต่างก็ปฏิเสธว่าไม่ได้รับเงินดังกล่าว ดังนั้น ตนจึงเดินทางไปที่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อพบกับ น.ส.เพลินตา เพื่อสอบถามความจริง แต่ น.ส.เพลินตา ก็ยังอ้างคำเดิม ตนจึงตัดสินใจพา น.ส.เพลินตา มาที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อมาพบกับบุคคลที่ น.ส.เพลินตา อ้างทั้งหมด เพราะตนคิดว่าทุกคนสามารถเป็นพยานได้ เมื่อมาถึงเมืองกาญจน์ น.ส.เพลินตา ได้ยอมรับกับตนว่าเงินทั้งหมดไม่ได้ให้ใครตามที่บอก แต่ไม่ได้บอกว่าเงินไปไหน และได้มอบบัตรเอทีเอ็มให้ตนไปกดเงินที่เหลือออกมาจำนวน 200,000 บาท ส่วนที่เหลือ น.ส.เพลินตา บอกแก่ตนว่า จะผ่อนให้เดือนละ 5,000 บาท จนกว่าจะหมด หลังจากนั้น ตนก็ให้กลับบ้านที่ จ.พิษณุโลก โดยไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด รวมทั้งที่มีข่าวว่าตนใช้อาวุธปืนขู่ก็ไม่จริงเช่นกัน ดังนั้น ตนจึงขอปฏิเสธ และจะขอสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งหลังจากที่เราจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ก็จะต้องประสานไปยัง พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก ให้ส่งเจ้าหน้าที่มารับตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา และให้ไปต่อสู้คดีในชั้นศาลเอาเอง แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลกอีก 1 คน คือ นายชูเกียรติ หรือเอก บุญอยู่ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 ซอยกำนันพันธ์ ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม ก็ให้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่จะดีกว่า ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการกดดันเพื่อจับกุมตัวให้ถึงที่สุด” พล.ต.ต.กมลสันติกล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น