ตราด - ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองใหญ่จับพ่อค้าลักลอบนำถังแก๊สเข้าประเทศกัมพูชา ขณะกำลังลำเลียงลงเรือได้ของกลางเป็นถังแก๊สเปล่าขนาด 48,18, และ 15 กิโลกรัมรวม 584 ถัง
วันนี้ ( 12 พ.ย.) ร.ต.ท.ทวี กุดแถลง รอง ผกก. สภ.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราดพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธินบ้านเขาวงศ์ ได้ช่วยกันขนถังแก๊สจำนวน 584 ถัง มาทำการตรวจนับ หลังได้เข้าทำการจับกุมได้ที่ ท่าเทียบเรือทรัพย์ชโลธร เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.ทวี เปิดเผยถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า ได้รับแจ้งจากสายว่ามีการลักลอบนำถังแก๊สใส่เรือประมงที่มีความกว้าง 2 ศอกครึ่ง ยาว 8 วา ที่บริเวณท่าเทียบเรือทรัพย์ชโลธร จึงได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ พบถังแก๊สบรรทุกอยู่ภายในเรือจำนวน 159 ถัง จึงได้เข้าไปสอบถามและขอดูเอกสารในการขนย้าย ปรากฏว่าไม่มี จึงได้ทำการควบคุมไว้
นอกจากนี้ยังพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ สีน้ำขาว ทะเบียน บบ 5367 จันบุรี รถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน ทะเบียน 82-2758 ชัยภูมิ ที่ภายในบรรทุกถังแก๊สมาจำนวน 311 ถัง และยังพบถังแก๊สวางอยู่บนพื้นอีก 114 ถัง รวมจำนวนทั้งสิ้น 584 ถัง เป็นถังขนาด 48 กิโลกรัม(สยามแก๊สมีสภาพเก่า) จำนวน 231 เป็นถังเปล่าจำนวน 101 ถัง และบรรจุแก๊ส 130 ถัง ขนาด 18 กิโลกรัม (เป็นถังของกัมพูชา ) จำนวน 301 ถัง บรรจุแก๊สแล้ว 278 ถัง และ 15 กิโลกรัม 52 ถัง (ถังเปล่า) เป็นของปตท. โดยนายสุรชาติ พิศาลธนกุล อายุ 31 ปี เป็นชาว จ.จันทบุรี รับว่าเป็นเจ้าของถังแก๊สทั้งหมดดังกล่าว
จึงได้ควบคุมตัวนายสุรชาติ พิศาลธนกุล มาทำการสอบสวนเพิ่มเติม และนำของกลางทั้งหมดมาไว้ที่ สภ.คลองใหญ่ ซึ่งราคาขายแก๊สฝั่งประเทศไทย ถังขนาด 48 กิโลกรัม ขายถังละ 800-890 บาท ถังขนาด 15 กิโลกรัม ขายถังละ 280-290 บาท (ราคานี้ไม่รวมถัง)เมื่อไปถึงฝั่งประเทศกัมพูชา จะมีราคาเพิ่มขึ้นอีกถังละ 300-500 บาท ส่วนถังขนาด 18 กก. ถังละ 600 บาท
สำหรับราคาต้นทุนแก๊สหุงต้มในประเทศไทยราคา กก.ละ 37 บาท แต่รัฐต้องนำเงินมาอุดหนุน กก.ละ19 บาท เพื่อให้ขายได้ในราคา กก.ละ 18 บาท จึงเป็นช่องทางที่ขบวนการลักลอบจะนำไปขายที่กัมพูชาในราคา กก.ละ 40 บาท จะได้กำไรส่วนต่างถึง กก.ละ 22 บาท
หลังทำการบันทึกการจับกุมแล้ว ได้ส่งตัวนายสุรชาติ พิศาธนกุล และของกลางทั้งหมดให้กับ พ.ต.ต.สมชาย แจ่มใส พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ ( 12 พ.ย.) ร.ต.ท.ทวี กุดแถลง รอง ผกก. สภ.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราดพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธินบ้านเขาวงศ์ ได้ช่วยกันขนถังแก๊สจำนวน 584 ถัง มาทำการตรวจนับ หลังได้เข้าทำการจับกุมได้ที่ ท่าเทียบเรือทรัพย์ชโลธร เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.ทวี เปิดเผยถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า ได้รับแจ้งจากสายว่ามีการลักลอบนำถังแก๊สใส่เรือประมงที่มีความกว้าง 2 ศอกครึ่ง ยาว 8 วา ที่บริเวณท่าเทียบเรือทรัพย์ชโลธร จึงได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ พบถังแก๊สบรรทุกอยู่ภายในเรือจำนวน 159 ถัง จึงได้เข้าไปสอบถามและขอดูเอกสารในการขนย้าย ปรากฏว่าไม่มี จึงได้ทำการควบคุมไว้
นอกจากนี้ยังพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ สีน้ำขาว ทะเบียน บบ 5367 จันบุรี รถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน ทะเบียน 82-2758 ชัยภูมิ ที่ภายในบรรทุกถังแก๊สมาจำนวน 311 ถัง และยังพบถังแก๊สวางอยู่บนพื้นอีก 114 ถัง รวมจำนวนทั้งสิ้น 584 ถัง เป็นถังขนาด 48 กิโลกรัม(สยามแก๊สมีสภาพเก่า) จำนวน 231 เป็นถังเปล่าจำนวน 101 ถัง และบรรจุแก๊ส 130 ถัง ขนาด 18 กิโลกรัม (เป็นถังของกัมพูชา ) จำนวน 301 ถัง บรรจุแก๊สแล้ว 278 ถัง และ 15 กิโลกรัม 52 ถัง (ถังเปล่า) เป็นของปตท. โดยนายสุรชาติ พิศาลธนกุล อายุ 31 ปี เป็นชาว จ.จันทบุรี รับว่าเป็นเจ้าของถังแก๊สทั้งหมดดังกล่าว
จึงได้ควบคุมตัวนายสุรชาติ พิศาลธนกุล มาทำการสอบสวนเพิ่มเติม และนำของกลางทั้งหมดมาไว้ที่ สภ.คลองใหญ่ ซึ่งราคาขายแก๊สฝั่งประเทศไทย ถังขนาด 48 กิโลกรัม ขายถังละ 800-890 บาท ถังขนาด 15 กิโลกรัม ขายถังละ 280-290 บาท (ราคานี้ไม่รวมถัง)เมื่อไปถึงฝั่งประเทศกัมพูชา จะมีราคาเพิ่มขึ้นอีกถังละ 300-500 บาท ส่วนถังขนาด 18 กก. ถังละ 600 บาท
สำหรับราคาต้นทุนแก๊สหุงต้มในประเทศไทยราคา กก.ละ 37 บาท แต่รัฐต้องนำเงินมาอุดหนุน กก.ละ19 บาท เพื่อให้ขายได้ในราคา กก.ละ 18 บาท จึงเป็นช่องทางที่ขบวนการลักลอบจะนำไปขายที่กัมพูชาในราคา กก.ละ 40 บาท จะได้กำไรส่วนต่างถึง กก.ละ 22 บาท
หลังทำการบันทึกการจับกุมแล้ว ได้ส่งตัวนายสุรชาติ พิศาธนกุล และของกลางทั้งหมดให้กับ พ.ต.ต.สมชาย แจ่มใส พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป