บุรีรัมย์ - เครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง จ.บุรีรัมย์ เรียกร้องรัฐบาลเพิ่มราคารับจำนำมันสำปะหลัง จาก กก.ละ 2.50 บาท เป็น 2.75-2.80 บาท อ้างไม่คุ้มทุน ระบุประสบปัญหาภัยแล้งและมีผลผลิตน้อยทำขาดทุนยับแน่ ซ้ำโครงการจำนำเปิดล่าช้าเดือดร้อนมากว่า 1 เดือนแล้ว
วันนี้ (8 พ.ย.) นายเจษฎา ตะกุดเพชร เลขาธิการสมาพันธ์สมัชชาเกษตรกรแห่งประเทศไทย จ.บุรีรัมย์ แกนนำเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มเพดานราคารับจำนำหัวมันสำปะหลังสดในโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังของรัฐบาลที่ปีนี้กำหนดราคารับจำนำเริ่มต้นไว้ที่ กิโลกรัมละ 2.50 บาทจากเชื้อแป้ง 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาจำนำของปีที่ผ่านมาที่เริ่มต้นในราคากิโลกรัมละ 2.75 บาท ทำให้ราคามันของเกษตรกรไม่อยู่ที่จุดคุ้มทุน
ประกอบกับปีนี้ไร่มันสำปะหลังของเกษตรกรประสบปัญหาภัยแล้ง มีผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมากว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เพาะปลูกกว่า 1,007,000 ไร่ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลได้ทบทวน และปรับเพิ่มราคารับจำนำหัวมันสำปะหลัง จากที่กำหนดไว้ กก.ละ 2.50 บาท เป็น กก.ละ 2.75-2.80 บาท หรือไม่ต่ำกว่าราคารับจำนำในโครงการรับจำนำมันสำปะหลังของเกษตรกรเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้จากผลผลิตที่สูงขึ้น และสามารถนำเงินไปใช้จ่ายในครัวเรือน เป็นค่าจ้างแรงงาน ค่าปุ๋ย และชำระหนี้สินทั้งในและนอกระบบที่เกิดจากการกู้ยืมเงินมาลงทุนในการเพาะปลูกมันสำปะหลังดังกล่าวด้วย
“หากเกษตรกรจำนำมันสำปะหลังในราคากิโลกรัมละ 2.50 บาทจะทำให้เกษตรกรขาดทุนอย่างแน่นอน เพราะปีนี้ไร่มันของเกษตรกรเสียจากภาวะฝนทิ้งช่วง และปัญหาภัยแล้งเป็นจำนวนมาก” นายเจษฎากล่าว
นายเจษฎากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในปีนี้เกษตรกรยังได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำมันฯ ที่ได้เปิดดำเนินการล่าช้ามานานกว่าหนึ่งเดือนจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดได้ จากที่รัฐบาลได้ประกาศจะเปิดจุดรับจำนำมันสำปะหลังของเกษตรกรได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ก็ไม่สามารถเปิดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เกษตรกรที่มีความจำเป็นต้องนำผลผลิตมันไปจำหน่ายให้แก่ลานมันในราคาถูกเพียงกิโลกรัมละ 2.20-2.30 บาทเท่านั้น โดยได้รับความเดือดร้อนมากว่า 1 เดือนแล้ว
