เพชรบุรี - ตำรวจเพชบุรี หอบสำนวนคดี “หมอสุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ” และ “วิลสา จันทรบัญชร” กว่า 1 พันแผ่น ยื่นอัยการจังหวัดเพชรบุรีพิจารณาสั่งฟ้องแล้ว ส่วน 2 สามีภรรยาที่สูญหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันเดินหน้าค้นหาต่อจนกว่าจะพบ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (2 พ.ย.) พล.ต.ต.พีรชาติ รื่นเริง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับคดีของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ได้ร่วมกันสรุปสำนวนคดีที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรีของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ และ น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ในข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้เสียอิสรภาพ และข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรเพื่อเตรียมยื่นต่ออัยการจังหวัดเพชรบุรีพิจารณา
ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำตัวนายไก่ พยานคนล่าสุดมาเปิดเผยตัวต่อสื่อมวลชนด้วยว่านายไก่ ยังไม่ได้หายไปไหนตามที่เป็นข่าวที่ออกตามสื่อก่อนหน้านี้ว่านายไก่ หายตัวไปอย่างลึกลับคาดว่าจะถูกอุ้มไปอีกราย โดยนายไก่ บอกว่าที่หายตัวไปนั้นเพราะตนต้องการดื่มสุราเท่านั้น แต่ไม่ได้มีใครมาจับตัว หรือลักพาตัวไปที่ไหน
ด้าน พล.ต.ต.พีรชาติ รื่นเริง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี เปิดเผยว่า สำหรับวันนี้เป็นเรื่องบังคับตามกฎหมายที่จะครบฝากขัง 4 ผลัด ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้เสียอิสรภาพ และข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งทางตำรวจได้สรุปสำนวนเพื่อส่งให้อัยการ ส่วนในเรื่องข้อหาอื่นตำรวจจะทยอยดำเนินการ โดยในวันนี้ เป็นการสรุปสำนวนคดีของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ และ น.ส.วิลสา
ส่วนในเรื่องของสองสามีภรรยานั้น ตำรวจยังทำการสอบสวนต่อไปยังไม่ได้ยุติ เรื่องการค้นหาศพก็ยังดำเนินการค้นหาต่อไปถ้ามีเบาะแสเพิ่มเติม แต่ส่วนที่วันนี้ที่สรุปไปเนื่องจากครบประมวลตามกฎหมายซึ่งฝากครั้งได้ 4 ครั้ง จึงต้องทำการสรุปส่งอัยการ
ส่วนในการดำเนินคดีอื่นๆ จะทยอยดำเนินคดีไปเรื่อยๆ จนกระทั่งครบจนหมดทุกคดีก็จะทำการส่งฟ้อง โดยชั้นแรกเป็นความเห็นของพนักงานสอบสวนที่มีความเห็นตามพยานหลักฐาน และตามข้อกฎหมายที่จะส่งถึงพนักงานอัยการ อัยการก็จะมีความเห็นในส่วนของอัยการส่งศาลไปตามขั้นตอน
“แต่ยังคงยืนยันว่า ในคดีของสองสามีภรรยานั้นยังคงดำเนินการต่อไม่ได้ยุติเพียงแค่นี้ ที่มีทั้งการสืบหาพยานหลักฐาน และการขุดค้นหาศพต่อไป ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราจะไปดำเนินคดีกับใคร แต่ถ้าพยานหลักฐานไปถึงใครก็จะต้องดำเนินคดีกับคนนั้น เป้าหมายหลักคือ หาสาเหตุของการหายตัวไปของสองสามีภรรยา ถ้าเป็นศพก็ต้องหาศพให้เจอ”
ต่อมา เวลา 13.40 น.หลังจากที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีเสร็จสิ้นแล้วได้นำสำนวน 2 แฟ้มใหญ่ รวม 1,094 แผ่น ไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรีเพื่อยื่นการสอบสวนที่เห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ฝากขังอยู่ในเรือนจำกลางเพชรบุรี ให้แก่อัยการจังหวัดเพชรบุรีพิจารณาคดีตามประมวลกฎหมายอาญา โดยมี พล.ต.ต.พีรชาติ รื่นเริง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และ พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก เป็นผู้นำสำนวนทั้งหมดยื่นต่อนายวรวิทย์ สัมพัฒนวรชัย อัยการจังหวัดเพชรบุรีทำการตรวจสอบ
โดยหลังจากรับสำนวน นายวรวิทย์ สัมพัฒนวรชัย อัยการจังหวัดเพชรบุรี ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ในเบื้องต้น ต้องขอพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนก่อน ก็ต้องพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ พยานเอกสารต่างๆ ว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่ เพราะว่าจากการที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้ต่างๆ นั้นเพียงพอหรือไม่มี ประเด็นไหนที่จะต้องสั่งสอบสวนเพิ่มเติมก็ต้องพิจารณาก่อน และพิจารณาโดยด่วน เพราะว่าจะครบฝากขังงวดสุดท้ายผลัดที่ 4 ในวันที่ 10 พ.ย.ที่จะถึงนี้
อีกทั้งคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจทั้งสื่อมวลชนที่ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง ในฐานะอัยการสูงสุดถือว่าเป็นคดีสำคัญที่จะต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงทราบ ในชั้นนี้ก็ต้องรายงานถึงท่านอธิบดีภาค 7 ให้ทราบ ในสำนวนนี้ ส่วนในชั้นต้นจะต้องขอเวลาในการพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนนี้ก่อน โดยจะเริ่มพิจารณาในวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งจะต้องรอจนถึงวันที่ 10 พ.ย.
“ส่วนเรื่องอื่นๆ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะไปอายัดตัวผู้ต้องหาอย่างไรบ้าง ในเบื้องต้น สำหรับคดีนี้ต้องพิจารณาตรวจสำนวนทุกอย่างให้เรียบร้อยภายในวันที่ 10 พ.ย.นี้ แต่หากต้องการให้สอบสวนเพิ่มเติมก็จะต้องประสานกับพนักงานสอบสวนให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมให้ได้ โดยทางสำนักอัยการจังหวัดจะจัดตั้งคณะพิจารณาของอัยการขึ้นมาเพื่อตรวจสำนวนจำนวน 3 คน เพื่อให้เข้ามาดู และตรวจสำนวนให้สมบูรณ์”
