ตร.เก็บหลักฐานดินไร่ “หมอสุพัฒน์” ไปตรวจเทียบดินติดกับยางรถที่พบในบ้านพักนนทบุรี

เพชรบุรี - ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี ขอหมายค้นศาลอีกครั้งเข้าไร่บน “หมอสุพัฒน์” เก็บตัวอย่างดินบริเวณที่สองสามี-ภรรยาถูกอุ้มครั้งสุดท้ายเพื่อเทียบกับดินที่ติดอยู่ที่ยาง และภายในรถยนต์ที่พบที่บ้านพักนนทบุรี พร้อมนำตัวพยานชาวพม่ามาสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนจะนำไปเก็บตัวยังสถานที่ปลอดภัย

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (11 ต.ค.) พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดเพชรบุรี และมอบหมายให้ พ.ต.ท.หญิง เอกจิตรา มีไชยพร สารวัตรพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี เดินทางเข้าไปยังไร่บนของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ หมู่ 10 บ้านวังข้าวสาร ต.กลัดหลวง จ.เพชรบุรี โดยตำรวจได้ตรวจสอบพื้นที่ยังจุดที่นายสามารถ นุ่มจุ้ย และ นางอรษา เกิดทรัพย์ ทำการเลื่อยไม้อยู่บนพื้นที่ไร่ของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ ก่อนถูกนำตัวลงไปยังไร่ล่าง และหายตัวไปทั้งคู่

โดย พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี เผยว่า ได้มาเก็บตัวอย่างดินไปตรวจเปรียบเทียบกับดินที่ติดอยู่ที่ยางรถยนต์ และภายในรถยนต์กะบะที่พบในบ้านพัก จ.นนทบุรี ของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ ในคดีกักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้เสียอิสรภาพ และลักทรัพย์หรือรับของโจร อีกทั้งยังอาจจะเป็นหลักฐานเชื่อมโยงไปยังคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อนหากมีการค้นพบศพสองสามีภรรยาที่สูญหายไป

และในเวลาเดียวกัน พนักงานสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้นำตัวนายซอแงเล หรือนายโย่ง อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นชาวพม่าเชื้อชาติกะเหรี่ยง มาสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนจะนำตัวไปไว้ในสถานที่ปลอดภัย

นายโย่ง เผยระหว่างถูกนำตัวไปยังสถานที่ปลอดภัยว่า ช่วงที่ถูกรัดคอไม่กี่นาทีก็สลบไปเมื่อฟื้นรู้สึกตัวคิดว่าถ้าเรายังอยู่ต้องตายแน่จึงตัดสินใจวิ่งหนี ช่วงที่วิ่งไปได้สังเกตว่าเพื่อน คือ นายอีต้า อยู่ตรงไหน ไม่ได้มองซ้าย หรือขวาพอได้สติตัดสินใจวิ่งหนีอย่างเดียว คิดในใจว่าถ้าจะตายก็ตาย ไม่ตายก็รอด

ส่วนสาเหตุที่ตนมาทำงานกับหมอ เนื่องจากครอบครัวยากจน เมื่อทราบจากญาติว่าหมอจะให้มาทำงานที่ไร่ก็ยินดี โดยหมอได้ขึ้นไปรับตนที่ อ.แม่สอด จ.เชียงราย ซึ่งหมอบอกว่าจะให้ค่าจ้างเดือนละ 2 พันบาท แต่ระหว่างทำงานในไร่ของหมอมาเกือบ 1 ปี ค่าจ้างที่หมอบอกไว้ก็ไม่เห็นได้ ชีวิตความเป็นอยู่ก็ลำบากอยู่ที่บ้านไม่เคยลำบากเหมือนทำงานในไร่หมอ ซึ่งหมอจะให้เงินใช้บ้างครั้งละ 100-200 บาท แต่ไม่บ่อย นานๆ จะได้สักครั้ง ซึ่งมาทราบภายหลังว่า ต้องอยู่กับหมอให้ได้ 1 ปีกับ 6 เดือนก่อนถึงจะได้เงินเดือน แต่ช่วงที่หมอไปรับตัวหมอไม่ได้บอกให้ทราบเลย และมีชาวพม่ามาทำงานในไร่พร้อมกับตนรวม 4 คน

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ทำงานอยู่ในไร่หมอ หมอไม่ได้ทำรุนแรงกับตน มีเพียงครั้งเดียว และครั้งสุดท้ายที่โดนกระทำพร้อมกับนายอีต้า จนสลบ และฟื้นมาจึงวิ่งหลบหนีไปได้ ส่วนเพื่อนเสียชีวิตดังกล่าว

“อยากฝากถึงผู้ที่เคยถูกหมอกระทำให้มาแจ้งเอาผิดหมอต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตำรวจจะดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี” นายโย่งกล่าว