กาญจนบุรี - ลุงวัย 68 ปีหลบหนีคดีพยายามฆ่านานกว่า 8 ปี แฝงตัวเป็นคนงานปั้นพระพุทธรูปที่กาญจนบุรี สุดท้ายไม่รอดถูกจับเข้าคุก เผยก่อคดีฆ่า 2 ศพ มีหมายจับ 2 ใบ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี (ผบก.ภ.จว.กจ.) ว่า เมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับกุมตัวนายชัยนาท หรือเจือ มีทอง อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/48 หมู่ที่ 3 หลักสอง บางแค กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ จ.625/2547 ลงวันที่ 25 พ.ค.2547 ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น หลังจากสืบทราบเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาทำงานเป็นช่างปั้นพระพุทธรูปแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
หลังจากได้รับการประสานขอกำลัง จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี (ผกก.สส.ภ.จว.กจ.) พ.ต.ต.กาจภณ ปฐมัง สารวัตรสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี (สว.กก.สส.ภ.จว.กจ.) พร้อมกำลังเข้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าวตามที่ได้รับการประสาน จากการติดตามจนกระทั่งเวลาประมาณเวลา 22.30 น.เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับกุมตัวนายชัยนาท ผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง และคุมตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี
จากการสอบสวนนายชัยนาท ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.30 น.ของวันที่ 26 ม.ค.2547 ตนถูกวัยรุ่นทำร้ายร่างกายด้วยความโมโหจึงได้คว้าจอบตีเข้าที่บริเวณศรีษะของวัยรุ่นคนดังกล่าว 1 ครั้ง จนกระทั่งเสียชีวิต หลังก่อเหตุตนได้หลบหนีไปอยู่ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้เกือบ 1 ปี และเข้าไปเป็นคนงานช่างปั้นพระพุทธรูปซึ่งเป็นอาชีพที่ตนถนัด และมีฝีมือ จนกระทั่งนายประเสริฐ ตุ้ยกาศ คนงานอาชีพเดียวกันขอเป็นลูกศิษย์ แต่นายประเสริฐ มีนิสัยเป็นคนชอบดื่มสุราแล้วโวยวายเสียงดังทั้งที่มีโรคประจำตัวอยู่
อยู่มาวันหนึ่งได้ดื่มสุราจนเมาแล้วมาโวยวายใส่ตน จนตนเกิดความลำคาญ จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนพร้อมกับใช้ฝ่ามือตบไปที่หลังนายประเสริฐ 1 ครั้ง จากนั้นนายประเสริฐ เกิดมีอาการเหมือนจะขาดใจตาย ตนจึงได้รีบนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอปาย สุดท้ายตนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในที่สุด จากนั้นตนได้ขอประกันตัวออกมาเพื่อสู้คดี หลังจากประกันตัวออกมาได้ ตนจึงหลบหนีมาอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีนานกว่า 8 ปีจนกระทั่งถูกจับดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวว่า นายชัยนาท มีทอง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคนเดียวที่ก่อเหตุทั้งสองคดีนี้ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกรกพระ ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวเนื่องจากการสืบสวนทราบว่า ได้หลบหนีมาทำงาน และพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นการบูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะอยู่กองบัญชาการใดก็ตามแต่ก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือ ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายมาดำเนินคดีให้ได้
อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงของการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบอีกด้วย และเป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งเป็นนโยบายสำคัญ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้เร่งรัดดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
สำหรับนายชัยนาท ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ นอกจากหนีหมายจับของศาลจังหวัดนครสวรรค์แล้ว ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับของศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ จ.113/2548 ลงวันที่ 29 กันยายน 2548 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาอีกด้วย