บุรีรัมย์ - ม็อบชาวบ้านบุกศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ประท้วงขับไล่ “ผู้ใหญ่บ้าน” ใช้งบฯ SML ไม่โปร่งใส แฉลอบถอนเงินโดยพลการไม่ผ่านประชาคมเห็นชอบจากคณะกรรมการและชาวบ้านส่อทุจริตชัด โวยทำหนังสือร้องเรียนอำเภอเมืองบุรีรัมย์แต่ไม่คืบหน้า ขณะนายอำเภอรุดเจรจา พร้อมรับปากเร่งตั้งกรรมการสอบ หากพบผิดจริงยันเอาผิดทั้งวินัย และ กม.
วันนี้ (31 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านหนองเรือ ม.6 ต.ถลุงเหล็ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ร่วม 100 คน นำโดย นายประณพ ตรีวิเศษ ได้เดินทางมาชุมนุมประท้วงที่หน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดบุรีรัมย์ปลด นายสำเนียน ดีรบรัมย์ อายุ 39 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองเรือ ออกจากตำแหน่งทันที
โดยชาวบ้านที่มาชุมนุมกล่าวหาว่านายสำเนียน ดีรบรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านหนองเรือ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการใช้จ่ายงบประมาณโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ที่รัฐบาลจัดสรรให้หมู่บ้านละ 3-5 แสนบาทตามขนาดของหมู่บ้าน เพื่อนำไปจัดทำโครงการพัฒนาหมู่บ้านตามความเห็นชอบของชาวบ้าน โดยเมื่อปี 2554 บ้านหนองเรือได้รับการจัดสรรเงิน SML มาจำนวน 300,000 บาท โดยได้มีการประชุมจะทำโครงการเลี้ยงปลา แต่หลังจากนั้นก็เงียบหายไปไม่มีการเรียกประชุมหรือชี้แจงความคืบหน้าในการทำโครงการแต่อย่างใด
จนล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 55 ที่ผ่านมาชาวบ้านทราบว่าผู้ใหญ่บ้านได้ถอนเงิน จำนวน 300,000 บาทออกมาโดยที่คณะกรรมการไม่รับทราบ และไม่ได้ผ่านการทำประชาคมจากชาวบ้านว่าจะนำเงินดังกล่าวไปทำอะไร และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเรียกประชุมหรือชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบแต่อย่างใด
นายประณพ ตรีวิเศษ แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวส่อเข้าข่ายทุจริต ทั้งโครงการทำซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านก็ไม่มีการชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบเลย ชาวบ้านจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอำเภอเมืองบุรีรัมย์ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้พากันเข้ามาร้องเรียนจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อให้พิจารณาปลดนายสำเนียนออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านอย่างเร่งด่วนด้วย
ต่อมา นายนิวัฒน์ เรืองเดช นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ได้เป็นตัวแทนจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางมาเจรจากับชาวบ้านที่มาชุมนุม พร้อมรับปากว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน โดยจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่หากพบว่านายสำเนียนมีพฤติกรรมกระทำผิดตามที่ชาวบ้านร้องเรียนจริงจะต้องดำเนินการเอาผิดทั้งทางวินัยและกฎหมายโดยไม่มีการละเว้น เพราะถือว่างบประมาณดังกล่าวเป็นงบของรัฐบาลที่จัดสรรให้นำมาพัฒนาหมู่บ้าน
นายนิวัฒน์ เรืองเดช นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางอำเภอเมืองบุรีรัมย์ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงจากทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 15 วัน อย่างไรก็ตาม ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์มี 323 หมู่บ้าน ขณะนี้พบว่ามีหมู่บ้านถูกร้องเรียนในลักษณะเดียวกันนี้จำนวน 3 หมู่บ้าน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยทุกครั้งที่มีการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตนได้กำชับทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส และมีการประชาคมหมู่บ้านทุกครั้ง เพื่อความโปร่งใสตามนโยบายรัฐบาล
