ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้งเพิ่มเป็น 3 อำเภอ เผยฝนตกคืนที่ผ่านมาช่วยนาข้าวเกษตรกรได้บางส่วน ผู้ว่าฯ นครราชสีมาเตรียมลงพื้นที่อำนวยการสูบน้ำเข้านาช่วยเกษตรกรช่วงเก็บเกี่ยว พร้อมสั่งทุกอำเภอดูแลประชาชนไม่ให้ขาดน้ำดื่มน้ำใช้
วันนี้ (31 ต.ค.) ที่โรงแรมเฮอร์มิเทจ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งของ จ.นครราชสีมาว่า ล่าสุดขณะนี้ทางจังหวัดฯ ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้งเพิ่มเป็น 3 อำเภอ คือ อ.ประทาย, อ.บัวใหญ่บางส่วน และ อ.เทพารักษ์บางส่วน โดยในวันที่ 5 พ.ย.นี้ตนจะลงพื้นที่ อ.บ้านเหลื่อมสำรวจแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ทั้ง อ.เมือง, อ.วังน้ำเขียว, อ.ปากช่อง และอำเภอรอบนอกอื่นๆ ซึ่งมีปริมาณที่ไม่มาก แต่สามารถช่วยพื้นที่นาข้าวของพี่น้องประชาชนได้บางส่วน สำหรับการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งนั้นได้เรียกประชุมนายอำเภอ 31 อำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ปภ.เขต 5 นครราชสีมา, ปภ.จังหวัด, ชลประทาน, อบจ., อบต. และเทศบาลตำบล โดยสั่งกำชับว่าเรื่องน้ำดื่มน้ำใช้หรือน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคของประชาชนจะต้องได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ให้ขาดแคลนโดยเด็ดขาด
สำหรับน้ำเพื่อการเกษตร ทางจังหวัดฯ จะร่วมกับชลประทานจังหวัดทำการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าเพื่อส่งน้ำไปให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาในพื้นที่ อ.บ้านเหลื่อม, อ.บัวใหญ่, อ.บัวลาย, อ.แก้งสนามนาง ที่มีนาข้าวอยู่ในช่วงใกล้เก็บเกี่ยว เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงนาข้าวไปจนถึงเวลาเก็บเกี่ยวได้
นายวินัยกล่าวต่อว่า สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของ จ.นครราชสีมาที่มีน้ำไม่ถึงร้อยละ 50 ของความจุอ่างนั้น การบริหารจัดการน้ำขณะนี้เราขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการทำนาปรัง และให้สำนักงานเกษตรจังหวัด และอำเภอไปส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย
เช่น ถั่ว มันสำปะหลัง ทดแทนข้าว ซึ่งอยากให้เกษตรกรงดการทำนาปรังโดยสิ้นเชิง เพราะถึงทำไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่พี่น้องเกษตรกรเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีภัยแล้งปริมาณผลิตข้าวปีนี้ของ จ.นครราชสีมาอาจลดลง ซึ่งคาดว่าปริมาณข้าวที่จะเข้าสู่ระบบจะน้อยกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 20%
