สกลนคร - เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนกลางเมืองสกลนคร หวิดลุกลามบ้านข้างเคียง สันนิษฐานไฟฟ้าลัดวงจรเช่นเคย ส่วนค่าเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ต.ค.) เวลา 10.30 น. ร.ต.อ.ชาติชัย วงษ์แสงจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 213/1 สุขาวดี ซอย 8 บ้านหนองสายขาว ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร จึงประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลนครสกลนครออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีนายโกมุท ฑีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสกลนคร และนายวิบูรณ์ แต้ศิริเวช รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสกลนคร ดูแล และควบคุมสั่งการอย่างใกล้ชิด
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้กึ่งปูนขนาด 2 ชั้น เลขที่ 213/1 สุขาวดี ซอย 8 บ้านหนองทรายขาว ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบ้านของนางวนิดา อุปพงษ์ อายุ 65 ปี อาศัยอยู่กับลูกชาย ทราบชื่อคือนายพนัส ตะธรรมมา อายุ 30 ปี ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณชั้น 2 และกำลังลุกลามลงสู่ชั้นล่างของตัวบ้าน ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันฉีดน้ำสกัดกั้น
โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ หวิดลุกลามบ้านเรือนใกล้เคียง เมื่อเพลิงสงบพบว่าตัวบ้าน สิ่งของ และจักยานยนต์อีก 4 คันที่เก็บไว้บริเวณชั้นล่างของบ้านได้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
จากการสอบสวนนายพนัสทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำงานตั้งแต่เช้า ส่วนนางวนิดาแม่ของตนออกไปบ้านเพื่อน จากนั้นเพื่อนบ้านได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังออกมาจากตัวบ้าน และได้กลิ่นเหม็นควันไฟ จึงลุกขึ้นดูเห็นไฟกำลังลุกไหม้บริเวณเสาบ้านซึ่งเป็นที่ติดสะพานไฟ จากนั้นเพลิงได้ลุกลามไปตามสายไฟภายในบ้านจนลุกลามติดสิ่งของและเสื้อผ้า
และกำลังจะลุกลามลงมายังชั้นล่าง เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงรีบวิ่งมาบอกนางวนิดา ผู้เป็นแม่ และเรียกขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้มาช่วยกันต่อสายยางฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง นายพนัสกล่าวว่า เมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมาตนได้จ้างช่างไฟฟ้ามาเดินสายไฟฟ้าใหม่แต่ก็ยังไม่เรียบร้อย จากนั้นก็ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากช่างเดินสายไฟภายในบ้านยังไม่เรียบร้อยและบางส่วนสายไฟมีสภาพเก่า ทั้งเจ้าของบ้านได้เสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้เป็นเวลานานอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเพลิงไหม้ได้
ส่วนค่าเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ประเมินที่กว่า 5 แสนบาท โดยเจ้าหน้าที่จะให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
