ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - ผกก.สภ.พะวอสั่งเร่งรวบรวมพยานหลักฐานก่อนออกหมายเรียก “อส.โหด” ส่งถึงนายอำเภอแม่สอด ระบุใช้ปืนเอ็ม 16 จริง พบปลอกกระสุน 1 ปลอกยิงไปที่หัวไหล่ขวา แจ้งข้อหาพยายามฆ่า ส่วน อส.ก็แจ้งกลับคู่กรณีมีอาวุธปืน-หาของป่า พร้อมยืนยันไม่พบยาเสพติดในที่เกิดเหตุ
รายงานข่าวจาก อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งถึงความคืบหน้ากรณี อส.อำเภอแม่สอดใช้ปืน M16 ยิงชาวบ้านว่า กรณีพระอาจารย์เด่น นันทิโย เจ้าอาวาสวัดป่าห้วยปาหรุด ตำบลด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอแม่สอดประมาณ 5 คน พร้อมด้วยนางสบพันธุ์ คำปอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 และชุดรักษาความปลอดภัยชุมชน ตำบลด่านแม่ละเมา จำนวนหลายคน ร่วมกันใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มนายศรัญยู สธนวรกูล และนายพิสุทธิ์ จันตา ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนั้นยังได้รุมทำร้ายนายสมนึก อินทา สลบคาที่ โดยอ้างว่านายศรัญยู กับพวกเข้ามาจับตะพาบน้ำและกบในป่าสงวนฯ นั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.สมศักดิ์ หฤรักษ์ ผกก.ส.ภ.พะวอ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการ” ค่ำวานนี้ (16 ต.ค.) ว่า ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว จริงๆ ฝ่าย อส.ตั้งด่านตรวจยาเสพติด บังเอิญว่าไปเจอกลุ่มของนายศรัญยู และนายสมนึก (ซึ่งไม่ได้อยู่ในบริเวณด่านตรวจ) จึงได้เรียกให้หยุด แต่กลุ่มผู้เสียหายตกใจเลยไม่ยอมหยุด ฝ่ายอาสาสมัครรักษาดินแดน(อส.) จึงยิงกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าใส่จำนวน 2 นัด ล่าสุดตำรวจเก็บปลอกกระสุนไว้เป็นหลักฐานแล้ว 1 ปลอก
ผกก.สภ.แม่สอดบอกว่า คดีนี้ต้องแยกเป็นสองประเด็น คือฝ่าย อส.แจ้งข้อหาชาวบ้าน ดคีอาวุธปืน (ลูกซอง) - หาของป่า และผู้เสียหาย (ชาวบ้าน) แจ้งในข้อหาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) พยายามฆ่า ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้นไม่เกี่ยว เพราะตรวจฉี่ในที่เกิดเหตุไม่พบ ส่วนจะไปตรวจฉี่ที่อำเภอแม่สอดนั้นเป็นเรื่องของฝ่าย สภ.แม่สอด
โดยจนถึงขณะนี้ฝ่ายตำรวจได้เรียกพยานในที่เกิดเหตุสอบสวนแล้วหลายปาก ซึ่งมีคนรู้เห็นจำนวนมาก ไม่สามารถบิดพลิ้วได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ณ วันนี้สอบคนเจ็บ พยาน ตรวจในที่เกิดเหตุเจอปลอกกระสุน เพื่อรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องดำเนินคดี เมื่อพบว่าเจ้าหน้าที่ อส.คนใดเป็นผู้ยิง หรือได้รับคำสั่งจากใคร ก็จะต้องออกหมายเรียก ส่งไปยังนายอำเภอแม่สอด เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาพยายามฆ่า แต่ยังไม่แน่ชัดว่าการรวบรวมหลักฐานจะเสร็จเมื่อใด
“แต่ยืนยันว่าคดีนี้ตรงไปตรงมา ผมจะเป็นคนรายงานต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เอง เพราะประเมินแล้วคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์”
ด้านผู้บาดเจ็บนายศรัญยู และนายพิสุทธิ์ ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว โดยกระสุนโดนที่ไหล่ขวา ส่วนนายสมนึกกำลังรอผลตรวจร่างกายอยู่
ผกก.กล่าวย้ำว่า คดีนี้ไม่สามารถยอมความได้ ส่วนที่ว่าฝ่าย อส.เป็นคนยัดข้อหาคดียาเสพติดด้วยหรือไม่นั้น คิดว่าไม่น่าจะทำได้ ส่วนเรื่องหาของป่าหรืออาวุธปืนก็ว่ากันไป ตำรวจทำสำนวนส่งไปให้อัยการเท่านั้น ส่วนคดีพยายามฆ่าก็ต้องสืบจนรู้ได้ว่าเจ้าหน้าที่ อส.คนใดเป็นผู้ยิง หรือใครสั่งให้ยิง เพื่อจะออกหมายเรียกส่งไปที่อำเภอต่อไปในเร็ววันนี้
ด้านนางสาว ศศิกา คีรีมาสจรูญ ชาวเขาเผ่ามูเซอ ภรรยา นาย พิสุทธิ์ จันตา เหยื่อ เอ็ม 16 ร้องเรียนว่า พ.ต.ท.โฆษิต เฮงจำรัส เจ้าของคดี พยายามช่วยเหลือ ผู้กระทำความผิด ด้วยการดำเนินคดีกับ นายทวี ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า หนึ่ง ในคนร้ายที่ใช้อาวุธ ปืนยิงสามีตน เป็น อาสาสมัคร รักดินแดน อำเภอแม่สอด เพียงคนเดียว โดยอ้างว่า ไม่มีหลักฐานไปดำเนินคดีกับบุคคลที่ร่วม กระทำความผิดอีก 10 คนได้ จึงไม่ดำเนินคดีนั้น
นางสาว ศศิกา กล่าวอย่างน้ำตานองหน้าว่า พนักงานสอบสวนแจ้งว่า จะเอาผิดกับผู้อื่นอีก ต้องแจ้งเป็นคดีใหม่ทั้งที่เหตุเกิดในคราวเดียวกัน และสามีตนนั้น ก็ให้การยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุนั้น จำหน้าผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด มี อาสาสมัคร รักดินแดน อำเภอแม่สอด ประมาณ 5 คน และ ยังมีนางสายพันธ์ คำปอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ร่วมกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ร่วมกันกระทำความผิด และ ยังมีนายโต้ง หรือนาย ถาวร ตื้อเชียง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลด่านแม่ละเมาร่วมกันยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
ทั้งหมดได้ร่วมกันกระทำผิด แต่ปกปิดการกระทำผิดของนายทวี อาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอแม่สอด กับพวก ที่ได้กระทำผิดอาญาอย่างร้ายแรงนั้นย่อมเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ร่วมกระทำความผิดอื่น ไม่ต้องรับโทษนั้น พนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินคดีทุกคนแตพ.ต.ท.โฆษิต เฮงจำรัส เจ้าของคดี พยายามไกล่เกลี่ยให้เลิกแล้วต่อกัน และให้จบเรื่องที่สถานีตำรวจ เพราะคนยิงนั้น เป็นลูกน้องนายอำเภอ และยังแจ้งแก่ สามีข้าว่า ให้คิดดูให้ดีดี จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย เพราะ อาสาสมัคร รักดินแดน อำเภอแม่สอด แจ้งว่า สามีของตนมีอาวุธปืนลูกซองด้วย และยังสงสัยว่า สามีตนไปจับตะพาบน้ำ และกบ ใน ป่าสงวนแห่งชาติ หากจบเรื่องกันก็จะไม่ถูกดำเนินคดี ในข้อหามีอาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน ความผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ อีกกระทงหนึ่งด้วย ทำให้ตนเกิดความหวาดกลัว และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งๆที่ สามี ของตนนั้น ได้รับบาดเจ็บ แทบเอาชีวิตไม่รอด จึงอยากให้ ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ พล.ตอ. ปานสิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาดูแลเรื่องนี้ เพราะคดีนี้เป็นคดีอิทธิพล มีการกล่าวอ้าง นายอำเภอและปลัดป้องกัน อำเภอแม่สอด ให้การคุ้มครองผู้กระทำความผิด ตนเกรงว่า หากให้ พนักงานสอบสวน สภ. พะวอ ดำเนินคดีนี้ต่อไป จะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นาย สุกิจ พูนศรีเกษม นิติกร วัดป่าห้วยปลาหลด กล่าวว่า นายทวี อาสาสมัคร อำเภอแม่สอด กับพวก และ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 และ หมู่ 5 ทั้งสองหมู่บ้าน ทั้งสองหมู่บ้าน อยู่ภายใต้บังคับบัญชา ของปลัดป้องกันละยังมีการกล่าวอ้าง นายอำเภอ แม่สอด เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พนักงานสอบสวน จะต้องทำอย่างระมัดระวัง ถ้าอันไหนจบกันได้ด้วยดี และเป็นการเยียวยาในทางแพ่งให้ แก่ผู้เสียหาย เพื่อ บรรเทา ผลร้ายนั้น คือหลักมนุษย์ธรรม แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า คดีนี้เหตุ เกิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ในเวลากลางวัน สถานีตำรวจพะวอ ได้รับเป็นคดีอุจฉกรรจ์ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2555 ในตอนเย็น และอ้างว่าไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่ผิดปกติ
รายงานข่าวจาก อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งถึงความคืบหน้ากรณี อส.อำเภอแม่สอดใช้ปืน M16 ยิงชาวบ้านว่า กรณีพระอาจารย์เด่น นันทิโย เจ้าอาวาสวัดป่าห้วยปาหรุด ตำบลด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอแม่สอดประมาณ 5 คน พร้อมด้วยนางสบพันธุ์ คำปอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 และชุดรักษาความปลอดภัยชุมชน ตำบลด่านแม่ละเมา จำนวนหลายคน ร่วมกันใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มนายศรัญยู สธนวรกูล และนายพิสุทธิ์ จันตา ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนั้นยังได้รุมทำร้ายนายสมนึก อินทา สลบคาที่ โดยอ้างว่านายศรัญยู กับพวกเข้ามาจับตะพาบน้ำและกบในป่าสงวนฯ นั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.สมศักดิ์ หฤรักษ์ ผกก.ส.ภ.พะวอ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการ” ค่ำวานนี้ (16 ต.ค.) ว่า ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว จริงๆ ฝ่าย อส.ตั้งด่านตรวจยาเสพติด บังเอิญว่าไปเจอกลุ่มของนายศรัญยู และนายสมนึก (ซึ่งไม่ได้อยู่ในบริเวณด่านตรวจ) จึงได้เรียกให้หยุด แต่กลุ่มผู้เสียหายตกใจเลยไม่ยอมหยุด ฝ่ายอาสาสมัครรักษาดินแดน(อส.) จึงยิงกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าใส่จำนวน 2 นัด ล่าสุดตำรวจเก็บปลอกกระสุนไว้เป็นหลักฐานแล้ว 1 ปลอก
ผกก.สภ.แม่สอดบอกว่า คดีนี้ต้องแยกเป็นสองประเด็น คือฝ่าย อส.แจ้งข้อหาชาวบ้าน ดคีอาวุธปืน (ลูกซอง) - หาของป่า และผู้เสียหาย (ชาวบ้าน) แจ้งในข้อหาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) พยายามฆ่า ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้นไม่เกี่ยว เพราะตรวจฉี่ในที่เกิดเหตุไม่พบ ส่วนจะไปตรวจฉี่ที่อำเภอแม่สอดนั้นเป็นเรื่องของฝ่าย สภ.แม่สอด
โดยจนถึงขณะนี้ฝ่ายตำรวจได้เรียกพยานในที่เกิดเหตุสอบสวนแล้วหลายปาก ซึ่งมีคนรู้เห็นจำนวนมาก ไม่สามารถบิดพลิ้วได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ณ วันนี้สอบคนเจ็บ พยาน ตรวจในที่เกิดเหตุเจอปลอกกระสุน เพื่อรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องดำเนินคดี เมื่อพบว่าเจ้าหน้าที่ อส.คนใดเป็นผู้ยิง หรือได้รับคำสั่งจากใคร ก็จะต้องออกหมายเรียก ส่งไปยังนายอำเภอแม่สอด เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาพยายามฆ่า แต่ยังไม่แน่ชัดว่าการรวบรวมหลักฐานจะเสร็จเมื่อใด
“แต่ยืนยันว่าคดีนี้ตรงไปตรงมา ผมจะเป็นคนรายงานต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เอง เพราะประเมินแล้วคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์”
ด้านผู้บาดเจ็บนายศรัญยู และนายพิสุทธิ์ ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว โดยกระสุนโดนที่ไหล่ขวา ส่วนนายสมนึกกำลังรอผลตรวจร่างกายอยู่
ผกก.กล่าวย้ำว่า คดีนี้ไม่สามารถยอมความได้ ส่วนที่ว่าฝ่าย อส.เป็นคนยัดข้อหาคดียาเสพติดด้วยหรือไม่นั้น คิดว่าไม่น่าจะทำได้ ส่วนเรื่องหาของป่าหรืออาวุธปืนก็ว่ากันไป ตำรวจทำสำนวนส่งไปให้อัยการเท่านั้น ส่วนคดีพยายามฆ่าก็ต้องสืบจนรู้ได้ว่าเจ้าหน้าที่ อส.คนใดเป็นผู้ยิง หรือใครสั่งให้ยิง เพื่อจะออกหมายเรียกส่งไปที่อำเภอต่อไปในเร็ววันนี้
ด้านนางสาว ศศิกา คีรีมาสจรูญ ชาวเขาเผ่ามูเซอ ภรรยา นาย พิสุทธิ์ จันตา เหยื่อ เอ็ม 16 ร้องเรียนว่า พ.ต.ท.โฆษิต เฮงจำรัส เจ้าของคดี พยายามช่วยเหลือ ผู้กระทำความผิด ด้วยการดำเนินคดีกับ นายทวี ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า หนึ่ง ในคนร้ายที่ใช้อาวุธ ปืนยิงสามีตน เป็น อาสาสมัคร รักดินแดน อำเภอแม่สอด เพียงคนเดียว โดยอ้างว่า ไม่มีหลักฐานไปดำเนินคดีกับบุคคลที่ร่วม กระทำความผิดอีก 10 คนได้ จึงไม่ดำเนินคดีนั้น
นางสาว ศศิกา กล่าวอย่างน้ำตานองหน้าว่า พนักงานสอบสวนแจ้งว่า จะเอาผิดกับผู้อื่นอีก ต้องแจ้งเป็นคดีใหม่ทั้งที่เหตุเกิดในคราวเดียวกัน และสามีตนนั้น ก็ให้การยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุนั้น จำหน้าผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด มี อาสาสมัคร รักดินแดน อำเภอแม่สอด ประมาณ 5 คน และ ยังมีนางสายพันธ์ คำปอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ร่วมกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ร่วมกันกระทำความผิด และ ยังมีนายโต้ง หรือนาย ถาวร ตื้อเชียง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลด่านแม่ละเมาร่วมกันยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
ทั้งหมดได้ร่วมกันกระทำผิด แต่ปกปิดการกระทำผิดของนายทวี อาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอแม่สอด กับพวก ที่ได้กระทำผิดอาญาอย่างร้ายแรงนั้นย่อมเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ร่วมกระทำความผิดอื่น ไม่ต้องรับโทษนั้น พนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินคดีทุกคนแตพ.ต.ท.โฆษิต เฮงจำรัส เจ้าของคดี พยายามไกล่เกลี่ยให้เลิกแล้วต่อกัน และให้จบเรื่องที่สถานีตำรวจ เพราะคนยิงนั้น เป็นลูกน้องนายอำเภอ และยังแจ้งแก่ สามีข้าว่า ให้คิดดูให้ดีดี จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย เพราะ อาสาสมัคร รักดินแดน อำเภอแม่สอด แจ้งว่า สามีของตนมีอาวุธปืนลูกซองด้วย และยังสงสัยว่า สามีตนไปจับตะพาบน้ำ และกบ ใน ป่าสงวนแห่งชาติ หากจบเรื่องกันก็จะไม่ถูกดำเนินคดี ในข้อหามีอาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน ความผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ อีกกระทงหนึ่งด้วย ทำให้ตนเกิดความหวาดกลัว และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งๆที่ สามี ของตนนั้น ได้รับบาดเจ็บ แทบเอาชีวิตไม่รอด จึงอยากให้ ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ พล.ตอ. ปานสิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาดูแลเรื่องนี้ เพราะคดีนี้เป็นคดีอิทธิพล มีการกล่าวอ้าง นายอำเภอและปลัดป้องกัน อำเภอแม่สอด ให้การคุ้มครองผู้กระทำความผิด ตนเกรงว่า หากให้ พนักงานสอบสวน สภ. พะวอ ดำเนินคดีนี้ต่อไป จะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นาย สุกิจ พูนศรีเกษม นิติกร วัดป่าห้วยปลาหลด กล่าวว่า นายทวี อาสาสมัคร อำเภอแม่สอด กับพวก และ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 และ หมู่ 5 ทั้งสองหมู่บ้าน ทั้งสองหมู่บ้าน อยู่ภายใต้บังคับบัญชา ของปลัดป้องกันละยังมีการกล่าวอ้าง นายอำเภอ แม่สอด เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พนักงานสอบสวน จะต้องทำอย่างระมัดระวัง ถ้าอันไหนจบกันได้ด้วยดี และเป็นการเยียวยาในทางแพ่งให้ แก่ผู้เสียหาย เพื่อ บรรเทา ผลร้ายนั้น คือหลักมนุษย์ธรรม แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า คดีนี้เหตุ เกิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ในเวลากลางวัน สถานีตำรวจพะวอ ได้รับเป็นคดีอุจฉกรรจ์ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2555 ในตอนเย็น และอ้างว่าไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่ผิดปกติ