ลำปาง - เจออีก ชายวัยกว่า 60 ปี เป็นข้าราชการบำนาญ ถูกลูกขังไว้ในบ้านไร้ที่นอนคนเดียวนานกว่า 7 ปี เปิดทีวี.ให้เป็นเพื่อนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมนำข้าวมาให้วันละครั้ง-คอยเก็บกวาดฉี่-อึ สัปดาห์ละครั้ง พบมีลูก 2 คน 1 ใน 2 เป็นอดีตนักยกน้ำหนักทีมชาติ อยู่กับเมียในตำบลอื่น ขณะที่ลูกสาวไม่เคยโผล่หน้าให้เห็น
นายพรนิมิตร สายเทพ ปลัดอำเภอเมืองลำปาง พร้อมด้วยนายนฤบาล ท้าวบุญเรือง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านดงสันเงิน และนางนงเยาว์ ไชยกุล ประธาน อสม. บ้านดงสันเงิน ม.15 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 550 เย็นวันนี้ (15 ต.ค.) หลังได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย และ อสม.ว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีชายชราวัยประมาณ 65 ปีซึ่งอยู่ในสภาพความจำไม่ดีนัก คือนายอำพล ภาคสุโพธิ์ ถูกลูกขังไว้ในบ้าน และใช้กุญแจล็อกไว้ด้านนอกไม่สามารถเดินออกจากบ้านได้ ปล่อยให้อยู่ตามลำพัง โดยเปิดทีวีให้ดูเป็นเพื่อนตลอด 24 ชั่วโมง
โดยพบว่าภายในบ้านไม่มีที่นอน การกินอาหารก็ใช้วิธีวางกับพื้นเรี่ยราด แล้วใช้มือหยิบกิน ประตูด้านหน้าจะมีการเจาะช่องไว้ เอากระจกออก 1 ช่องเพื่อให้นายอำพลสามารถลอดศีรษะออกมาดูคนภายนอกได้เท่านั้น
ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบ ได้สอบถามนายอำพลว่าหิวข้าวหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าหิว แต่ก็ไม่มีอะไรกิน ทางคณะเจ้าหน้าที่จึงได้ไปซื้อขนม และก๋วยเตี๋ยวมาให้ ซึ่งนายอำพลได้กินขนมอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความหิว
จากการสอบถามนางนงเยาว์ ไชยกุล ประธาน อสม. ทราบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 7 ปีก่อนทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ตน และ อสม.มาตรวจสอบหาคนชื่ออำพล ภาคสุโพธิ์ เป็นอดีตข้าราชการบำนาญของหน่วยงานแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน แต่ตนก็หาไม่เจอเนื่องจากบริเวณหน้าบ้านปกคลุมด้วยหญ้าทั้งหมดจึงมองไม่เห็น จนกระทั่งเมื่อสองปีที่ผ่านมาได้มีการมาตัดหญ้าบริเวณหน้าบ้านออกจนมองเห็นบ้านหลังดังกล่าว จึงได้เข้ามาตรวจสอบ จนพบว่ามีนายอำพลอยู่แต่ความจำไม่ค่อยดี ถามตอบไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนลูกทราบว่ามีสองคน คือ นายศักดา ภาคสุโพธิ์ หรือโอ๋ และเอ หรืออภิญญา ภาคสุโพธิ์ ที่รู้จักกันในนามของอดีตนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย
ส่วนคนที่มาดูแลพ่อคือคนชื่อโอ๋ อาศัยอยู่กับภรรยาในตำบลอื่น จะคอยนำอาหารมาให้ในตอนเช้า และฝากให้เพื่อนบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงช่วยดูให้ 1 สัปดาห์ก็จะมาเก็บกวาดปัสสาวะ อุจจาระของพ่อ 1 ครั้ง ส่วนลูกสาวคือเอ ไม่เคยมาดูเลย
จากการสังเกตภายในบ้านจะไม่มีที่นอน เนื่องจากนายอำพลจะปัสสาวะใส่จนเลอะเทอะหมด แต่ก็เป็นห่วงว่าอากาศกลางคืนเริ่มหนาว พื้นบ้านที่เป็นปูนซีเมนต์อาจจะทำให้นายอำพลหนาวจนช็อกได้
นายพรนิมิตรเปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากผู้นำท้องถิ่นเมื่อเดือน ก.ค. 55 ที่ผ่านมา จึงได้ประสานงานให้ลูกชายคือนายโอ๋ มาพบ และได้พูดคุยกันไปหนึ่งครั้ง โดยสอบถามสาเหตุที่ขังพ่อของตัวเองไว้ในบ้านโดยไม่มีคนดูแล นายโอ๋ได้บอกว่า พ่อความจำเสื่อม หากปล่อยก็จะเดินไปทั่ว แต่ยินยอมที่จะพาพ่อไปรักษาที่เชียงใหม่ แต่บอกว่าตนไม่มีเงิน ทางอำเภอจึงได้ประสานทางโรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่ และจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ หลังจากนั้นนายโอ๋ก็หายไป ทางอำเภอพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปก็ไม่รับสาย จึงได้เข้ามาตรวจสอบความเป็นอยู่ในวันนี้ ซึ่งก็พบว่านายอำพลน่าเป็นห่วง จึงอยากฝากถึงลูกทั้งสองขอให้เข้ามาประสานกับทางอำเภอ หากไม่มีเวลาดูแลพ่อก็ขอให้มาทำเรื่องเพื่อส่งพ่อไปรักษาที่โรงพยาบาลที่เชียงใหม่ แต่อย่าปล่อย หรือขังพ่อไว้ในบ้านตามลำพังแบบนี้ เพราะหากพ่อเจ็บป่วยและไม่สบายจะไม่มีใครรู้ใครเห็นอย่างแน่นอน
