ตร.แม่สายเข้าตาจน เจอรถต้องสงสัยเข้าบ้านเด็กนักการเมือง ได้แต่เฝ้าดู-รายงาน “นาย”

เชียงราย - ตำรวจแม่สายเข้าตาจน! ไล่ตามรถต้องสงสัยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหวังตรวจสอบ พบเลี้ยวเข้าบ้านคนในเครือข่ายนักการเมือง แถมเจอรถไร้ป้ายทะเบียนในบ้านอีกหลายคัน แต่ทำได้เพียงแต่รายงานนาย-เฝ้าดู แฉแก๊งค้ารถแม่สายมี ตร.-อดีตนักโทษคดียาเสพติดเป็นโต้โผ จ้างคนดาวน์รถก่อนจ่าย จนท.คันละเหยียบแสน แล้วลอบขนส่งข้ามฝั่งขายพม่า

วันนี้ (15 ต.ค. 55) มีรายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลัง พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ ยุววรรณ ผกก.สภ.แม่สาย มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดได้เข้มงวดกวดขันการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะตามพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู สีบรอนซ์ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน จึงได้นำกำลังออกติดตาม เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นขบวนการค้ารถข้ามชาติจึงได้ออกติดตามตรวจสอบ กระทั่งพบว่ารถคันดังกล่าวได้แล่นไปตามถนนพหลโยธิน ขับเข้าไปจอดอยู่ในอาคารแห่ง หนึ่งพื้นที่ ม.3 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เจ้าหน้าที่จึงวางนำกำลังเอาไว้

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าอาคารดังกล่าวเป็นคนของนักการเมืองคนหนึ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เข้าไปตรวจค้นทันที ทำได้เพียงรายงานให้หน่วยเหนือรับทราบเท่านั้น

แต่จากการมองจากภายนอกพบรถยนต์คันอื่นๆ ที่มีลักษณะ และรุ่นเดียวกัน แต่มีสีอื่นๆ เช่น ขาว ดำ ฯลฯ จอดอยู่อีกรวม 4-5 คัน ทั้งหมดไม่มีติดแผ่นป้ายทะเบียน

ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังเฝ้า ได้มีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านและปัจจุบันเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของนักการเมืองในการหาเสียงเลือกตั้งทุกครั้ง ได้ออกแสดงตัวพร้อมแจ้งว่ารถทั้งหมดเป็นของตนและเนื่องจากเป็นสถานที่ส่วนบุคคลจึงไม่อยากให้มีการเข้าไปตรวจค้น ทำให้เจ้าหน้าที่ยังคงวางกำลังไว้ที่ด้านหน้าต่อไป

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าจนถึงปัจจุบันยังไม่ชัดเจนว่ารถทั้งหมดมีที่มาที่ไปอย่างไร ทำให้มีการสันนิษฐานกันว่ารถดังกล่าวอาจมีการดาวน์มาจริง แต่จะนำไปส่งออกตามกฎหมายศุลกากร

ขณะที่มีรายงานด้วยว่า ขบวนการค้ารถข้ามชาติที่เคลื่อนไหวอยู่ที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สาย มีตำรวจชั้นประทวนไม่ทราบสังกัดคนหนึ่งร่วมกับอดีตนักโทษคดียาเสพติดคนหนึ่ง เป็นหัวหน้าแก๊ง มีพฤติกรรมให้ผู้ร่วมขบวนการไปมัดจำหรือดาวน์รถยนต์ใหม่มาจากศูนย์จำหน่าย หรือโชว์รูมต่างๆ

จากนั้นก็จะนำรถที่ดาวน์มาไปยังชายแดนแม่สาย เพื่อเตรียมลักลอบส่งออกไปตามช่องทางลำน้ำรวก บริเวณบ้านเวียงแก้ว ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ซึ่งมีการใช้โป๊ะเหล็กสำหรับขนถ่ายข้ามฝั่ง หรือที่ช่องผาช้างมูบ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย โดยจะจ่ายให้เจ้าหน้าที่ที่ไปพบเห็นทั้งฝั่งไทยและพม่าฝ่ายละ 50,000 บาท

สำหรับตลาดผู้รับซื้อคือลูกค้าในฝั่งพม่าเป็นสำคัญ ซึ่งผู้ซื้อจะนำไปไว้ที่เขตเศรษฐกิจ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เพื่อสวมทะเบียนรถในพม่า หรือถอดชิ้นส่วนอะไหล่ขายต่อไป