กรมอุทยานฯ เตรียมประกาศให้ช้างแอฟริกาเป็นสัตว์คุ้มครอง

ลำปาง - กรมอุทยานฯ เตรียมประกาศช้างแอฟริกาซึ่งเป็นสัตว์ต่างถิ่นชนิดแรกเป็นสัตว์คุ้มครอง ห้ามล่าซื้อขาย ใครมีครอบครองถือว่ามีความผิด

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชฯ เปิดเผยว่า จากรายงานการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบค้าสัตว์ป่า พบว่าในปัจจุบันมีประเด็นหนึ่งที่ทางกรมอุทยานฯ ให้ความสนใจ คือการค้างาช้าง แต่ไม่ใช่งาช้างไทยแต่เป็นการค้างาช้างแอฟริกา โดยในปีนี้พบว่ามีการฆ่าช้างมากกว่า 300 ตัวเพื่อตัดเอางา ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามความอยู่รอดของสัตว์ป่าและพืชพรรณในธรรมชาติ โดยเฉพาะสัตว์ป่าและพืชพรรณที่มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ และดำรงไว้เพื่อสืบพันธุ์ต่อไป

แม้ปัจจุบันมีสมาชิกเข้าร่วมโครงการกว่า 170 ประเทศทั่วโลก แต่การลักลอบนำงาช้างแอฟริกาเข้าไปจำหน่ายในหลายประเทศซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยการลักลอบเข้าทางท่าอากาศยานและศุลกากร ซึ่งส่วนใหญ่ที่ลักลอบนำเข้าไทยก็เพื่อนำมาทำเป็นเครื่องประดับ สร้อย แหวน พระ ฯลฯ โดยปัจจุบันมีการจับกุมและยึดของกลางงาช้างแอฟริกาไว้ไม่ต่ำกว่า 15 ตัน ซึ่งยังไม่สามารถนำไปใช้อย่างอื่นได้ โดยในอนาคตหากคดีสิ้นสุดทางกรมอุทยานฯ อาจจะจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อนำของกลางทั้งหมดมาแสดงให้ประชาชนได้ชม

ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองสัตว์ป่าและป้องกันปัญหาการค้างาช้างที่ผิดกฎหมาย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชฯ ได้เสนอเรื่องให้ช้างจากแอฟริกา ซึ่งเป็นสัตว์ต่างถิ่นชนิดแรก เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ เพิ่มเติมเข้าไปในกฎหมาย คาดภายในสองเดือนจะสามารถบังคับใช้ได้ และเบื้องต้นก็จะประสานงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ออกตรวจค้นทุกจุดที่เป็นแหล่งจำหน่ายซึ่งจะมีอยู่ที่ภาคกลางและภาคเหนือ

โดยเฉพาะสินค้าจากงาช้างแอฟริกาซึ่งปกติก็ไม่อนุญาตให้มีการนำเข้าอยู่แล้ว ซึ่งหากพบว่าผู้ใดมีไว้ หรือครอบครอง ก็จะถูกจับดำเนินคดี โดยโทษสูงสุดคือจำคุกถึง 4 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท และจะสั่งปิดและเพิกถอนใบอนุญาตร้านที่ทำผิดกฏหมายทันที